เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ต.ค. 63) คนโปแลนด์มากกว่า 100,000 คนลงถนนในกรุงวอร์ซอ เพื่อประท้วงการตัดสินของศาลสูงสุดที่สั่งห้ามการทำแท้งแบบถูกกฎหมายแทบทุกกรณี โดยนับว่าเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่พรรคปัจจุบันขึ้นมามีอำนาจเมื่อปี 2015 และนับถึงวันนี้ การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นติดกันเป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว
การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในโปแลนด์เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้ (22 ต.ค.63) หมายความว่าการทำแท้งจะผิดกฎหมายทั้งหมด ยกเว้นเพียงแค่ในกรณีของการข่มขื่น การตั้งครรภ์ที่เกิดจากเพศสัมพันธ์ภายในครอบครัว และหากสุขภาพของแม่อยู่ในความเสี่ยง แม้แต่ในกรณีที่พบว่าฟีตัส (ตัวอ่อนในครรภ์) มีความบกพร่องแต่กำเนิดที่อาจทำให้เสียชีวิตทันทีที่เกิดมา ก็ถูกห้ามเพราะถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งสถิติปัจจุบันระบุว่าการทำแท้งด้วยเหตุผลที่กฎหมายใหม่นี้อนุญาต เป็นแค่ 2% ของจำนวนการทำแท้งถูกกฎหมายทั้งหมดเท่านั้น
“กรณีที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว มันเป็นการตัดสินที่มีผลร้ายแรงและจะทำลายชีวิตของผู้หญิงหลายๆ คนและครอบครัวมากมาย” – เสียงของ ‘Kamila Ferenc’ ทนายผู้ทำงานกับองค์กรเพื่อช่วยเหลือกับผู้หญิงที่โดนปฏิเสธการทำแท้ง โดยกลุ่มสิทธิสตรีก็ต่างเป็นกังวลอย่างมากว่าคนเป็นแม่จะมีความเสี่ยงสูงหากต้องตั้งครรภ์ทารกที่มีโอกาสมีชีวิตรอดน้อย อีกทั้งการทำแท้งเถื่อนและการทำแท้งในต่างประเทศ จากเดิมที่มีประมาณ 80,000-120,000 เคสต่อปี ก็อาจจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการห้ามการทำแท้งถูกกฎหมายไม่ได้ทำให้ความต้องการในการทำแท้งหมดไปแต่อย่างไร
‘#ThisIsWar’ คือแฮชแท็กที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์โดยผู้ที่เชื่อในการทำแท้งเสรี เพื่อร่วมแสดงจุดยืนว่าไม่พอใจในกฎหมายใหม่นี้และสนับสนุนคนที่ลงถนนประท้วง โดยแม้ว่ารัฐจะออกกฎห้ามการรวมตัวเกินกว่า 5 คน เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นคาดว่าแค่วันพุธที่แล้ววันเดียว มีผู้ออกมาเดินประท้วงการตัดสินใจของรัฐบาลและเรียกร้องสิทธิกว่า 430,000 คนในการชุมนุมกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ ด้วยสโลแกนหลักของการประท้วงที่ตะโกนกึกก้องคือ “Fuck off” (ออกไป) และ “Fuck PiS” (ชื่อพรรครัฐบาลหลักโปแลนด์)
รัฐบาลปัจจุบันของโปแลนด์คือใคร? – พรรค Law and Justice (PiS) นำโดยนาย Andrzej Duda เพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สองเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งพรรคนี้เป็นที่รู้จักดีในฐานะที่มีแนวคิดอนุรักษณ์นิยมแบบสุดโต่งและชูอุดมการณ์ชาตินิยมที่ผูกโยงอยู่กับคริสต์นิกายคาทอลิก ทำให้รัฐบาลนี้ไม่เพียงแค่ริดรอนเสรีภาพในการทำแท้ง (ซึ่งเป็นบาปในความเชื่อแบบคาทอลิก) แต่ยังแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับการเคลื่อนไหวของ LGBT+ และสิทธิของกลุ่มนี้ในโปแลนด์ด้วย ระหว่างที่หาเสียงการเลือกตั้งเมื่อปี 2019 นาย Jaroslaw Kaczynski หัวหน้าพรรคนี้ ก็ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า “อุดมการณ์ของพวก LGBT เป็นสิ่งที่อันตรายต่ออัตลักษณ์ของคนโปแลนด์ ต่อความเป็นรัฐชาติโปแลนด์” และยังอ้างว่าเป็นอันตรายต่อ “ความเชื่อเรื่องสถาบันครอบครัวแบบดั้งเดิม” อีกด้วย
นักสิทธิมนุษยชนในโปแลนด์จึงเชื่อว่า กฎหมายการทำแท้งล่าสุดนี้อาจเป็นความพยายามที่จะเรียกคะแนนความพึงพอใจจากฐานเสียงของพรรคและกลุ่มฝ่ายขวา เนื่องจากโปแลนด์ขึ้นชื่อว่ามีคนนับถือคริสต์นิกายคาทอลิกมากที่สุดในยุโรปประเทศหนึ่ง อีกทั้งคริสตจักรคาทอลิกก็มีอิทธิพลมากกับนโยบายของรัฐบาลในด้านต่างๆ จึงเห็นได้ชัดเจนว่าสิทธิมนุษยชนของหลายๆ คนในโปแลนด์กำลังค่อยๆ ถูกกัดกร่อนลงด้วยเหตุผลของการปกป้องสถาบันศาสนา
#Poland #AbortionBan
#AbortionLegalization
อ่านข่าวเรื่องเพศอื่นๆ: www.spectrumth.com/
อ้างอิง
CNN: https://cnn.it/3oPHwCU, https://cnn.it/3mNN6Ed
BBC: https://bbc.in/2THxgyi, https://bit.ly/3mMN3bN
The Guardian: https://bit.ly/323Nwhz, https://bit.ly/3mNFEsr
Politico: https://politi.co/2HVtjDH
ภาพ: mr_fly_guy_one
#Spectrum #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
