#ตามหาแซฟฟิคที่จริงใจ เสียงแห่งความเหงาของชาวหญิงรักหญิง อัตลักษณ์ที่กลมกลืนเกินไปในสังคมรักต่างเพศ

- Advertisement -

เล็บเจล ผมยาวตรง (หรือบางทีก็ผมลอนเบอร์ 40) ใส่แหวนหลายวง ชอบใส่เชิ้ต ใส่รองเท้า Dr. Martin ไว้ผมรากไทร (Mullet) มีรอยสักเล็กๆ ดูเหมือนเป็นฮิปสเตอร์ (^-^V) เป็นแฟนคลับแทยอน คาสึฮะ คาริน่า ซึลกิ (หรือเกิร์ลกรุปตึกชมพู)* พูดคะขากับผู้หญิง และอื่นๆ 

- Advertisement -

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสัญญาณที่รวบรวมและหักล้างในคราวเดียวกัน ของบทสนทนาว่าด้วย ‘แซฟฟิคเป็นอย่างไร’ ครั้งที่ล้านในพื้นที่ออนไลน์ และทุกครั้งที่ทวีตทำนองนี้เกิดขึ้น ก็มีผู้คนไม่ขาดสายมาตะโกนว่าเออ ใช่ จริงด้วย และรีทวิตไม่ต่ำ 5 พัน ยังไม่รวมเสียงบ่นประปรายว่าแซฟฟิคหายากโคตร แถมบางครั้งยังไม่รีรอ ทวีตขายคุณสมบัติตัวเองพร้อมปีเกิด เพื่อบอกให้โลกรู้ว่ามีคนโคตรโสดและโคตรรอความรักอยู่ตรงนี้ พร้อมข้อความ ‘ตามหาแซฟฟิคที่จริงใจ’

ทั้งที่ดูเหมือนอุปสงค์และอุปทานของชุมชนแซฟฟิคจะพอดิบพอดีกันจนไม่น่าจะมีใครเหงาปานนั้น แต่อะไรทำให้แซฟฟิคเป็นพัน ๆ คนมารวมตัวกันร่ำร้องว่า ‘หากันไม่เจอ’ โดยไม่ได้นัดหมาย คอมมูนิตี้ออนไลน์ของแซฟฟิคแข็งแกร่งจริงหรือไม่ แล้วแซฟฟิคหากันไม่เจอจริง ๆ มั้ย หรือมันมีอะไรมากกว่านั้นกันแน่ ?

#Spectroscope: เสียงแห่งความเหงาของชาวหญิงรักหญิง อัตลักษณ์ที่กลมกลืนเกินไปในสังคมรักต่างเพศ

แซฟฟิค (Sapphic) หมายถึงผู้ที่นิยามตนว่าเป็นหญิงที่มีรสนิยมทางเพศดึงดูดผู้หญิงด้วยกัน ร่มอัตลักษณ์ ‘Sapphic’ นี้หมายรวมถึงผู้หญิงข้ามเพศและนอนไบนารี่ด้วย ชุมชนหญิงรักหญิงในไทยโอบรับคำที่ใหญ่และครอบคลุมกว่าอย่างแซฟฟิคมาใช้จนปัจจุบัน โดยยังมีบางส่วนใช้คำเรียกอัตลักษณ์เลสเบี้ยนร่วมด้วย

สำหรับคนเพศกำเนิดหญิงใต้ร่มแซฟฟิค ปัจจัยหนึ่งที่เขาและเธอต่างสมัครใจจะอยู่แบบถ้าไม่ถามก็ไม่พูด คือความเป็นหญิงที่ผูกติดเป็นเงาตามตัว หลุดจากเรื่องรสนิยมทางเพศ พวกเขาและเธอก็เป็นลูกสาวของครอบครัว ถูกคาดหวังให้แต่งงานมีลูกหลาน เคยอยู่อย่างไม่มีปากมีเสียงในบ้าน เคยถูกจับจ้องและต้องระมัดระวังการแสดงออก ลูกสาวหลายบ้านแทบไม่เคยห่างพ่อหรือแม่ไปมีชีวิตของตัวเอง หากจะมีลูกสาวบางบ้านที่ ‘กล้า’ พอจะบอกพ่อแม่ว่าตัวเองเป็นอะไร ก็ยังไม่วายต้องเจอกับความคาดหวังว่าวันหนึ่งลูกสาวจะกลับมาสร้างครอบครัวตามขนบรักต่างเพศ บทบาททางเพศที่ตามติดลูกสาวเป็นเงานี้ทำให้การจะดิ้นออกมาบอกโลกว่าฉันนี่แหละแซฟฟิคเป็นเรื่องยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ใครที่พ่อแม่โอบรับและสนับสนุนจึงเป็นเรื่องโชคดีแบบสุดๆ 

ความลักลั่นและพื้นที่คลุมเครือภายใต้เล็บเจลและผมยาวลอนเบอร์ 40 นี้จึงเป็นหลุมหลบภัยที่หญิงรักหญิงที่ไม่อยากรับความกดดันจากครอบครัว คนรอบข้าง ต่างเลือกเก็บตัวเงียบ ๆ แต่ไอ้สิ่งที่ทำให้รอดปลอดภัยจากการตัดสินของสังคมอย่างการ ‘ดูเป็นสเตรท’ (Straight Passing) ก็กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในการหากันให้เจอ ไม่แปลกที่พื้นที่ออนไลน์ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนทั้งหมดนี้กลายเป็นพื้นที่ปลดปล่อยเสียงกรีดร้องอยู่ในใจว่ากูไม่เคยหาใครที่เป็นเหมือนกูเจอเลยมึง เหงาและอยากมีแฟนมาก ๆ

นี่คือเรื่องราวคลาสสิกว่าด้วยโศกนาฏกรรมภายใต้ร่างกายที่ดูเป็นสเตรท มีความรัก แต่ไม่มีใครรู้ จนมี มุกในหมู่ชาวเน็ตที่ประกอบด้วยภาพของผู้หญิงสองคนในยุค 60-70 แสดงความรักกันแบบที่คนยุคนี้มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่หมู่ (เพื่อน) กัน อธิบายความสัมพันธ์อันลึกซึ้งว่าทั้งสองฝ่ายส่งจดหมายแสดงความรักความคิดถึง แล้วตบท้ายด้วยแคปชั่นสั้น ๆ ว่า Historian will say they were good friend 🤡*

เพื่อนพ่อมึงดี เป็นแฟนกันโว้ย แซฟฟิคยุค 60-70 คงอยากจะบอกนักประวัติศาสตร์แบบนั้น

#3วันต่อมาเขาพาผัวมาด้วย – เส้นแบ่งอยู่ตรงไหนระหว่างแซฟฟิคที่ใจจริงกับผู้หญิงที่เล่นกับใจ?

ในสถานการณ์ที่ไส้เดือนตาบอดพยายามจะดิ้นรนให้เจอคนดีของใจในเขาวงกตสุดซับซ้อน ประสบการณ์ที่ชุมชนหญิงรักหญิงพูดติดตลกกันบ่อย ๆ คือการอ่านสัญญาณพลาด หรือคิดไปเองว่าว่า ‘ผู้หญิง’ คนนี้เขาชอบ ‘ผู้หญิง’ แต่สุดท้ายกลับพบว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบรักต่างเพศ (Heterosexual) ความเจ็บช้ำน้ำใจนั้นถูกระบายออกมาเป็นเช็กลิสต์เลสเบี้ยนแท้ว่าครั้งหนึ่งต้องเคยตกหลุมรักหญิงแท้แน่ ๆ โดยที่อีกฝ่ายอาจไม่เคยได้รู้ ได้ทราบความจริงใจ หรือได้แถลงตรงๆ สักครั้งว่าเธอไม่อยู่ใต้ร่มแซฟฟิคจริงหรือไม่

แม้จะเป็นมุกขำ ๆ และมีคนจำนวนมากร่วมแชร์ประสบการณ์อย่างสิ้นหวัง แต่บอกตามตรงว่าสิ่งนี้ไม่ Healthy ต่อชุมชนเควียร์สักเท่าไร โดยเฉพาะกับคนอัตลักษณ์ไบเซ็กชวลหรือแพนเซ็กชวลที่กำลังคบอยู่กับผู้ชายอยู่แล้วถูกทำให้อัตลักษณ์หายไป ความเจ็บช้ำน้ำใจนี้สะท้อนความกลัวไบเซ็กชวลในชุมชนหญิงรักหญิงนี้ที่นำไปสู่ปัญหาในชุมชนอีกมาก หลายครั้งที่ Bi Women (ที่อาจไม่เคยคัมเอาต์หรือเปิดเผยตัวตน) คบกับผู้หญิงในช่วงเวลาหนึ่ง เลิกกัน แล้วเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับผู้ชาย ชุมชนหญิงรักหญิงที่เคยดูอบอุ่นปลอดภัยก็พร้อมจะร่ำไห้ ผิดหวัง ลามไปถึงสาปส่งและมอบข้อหา ‘คนหลอกลวง’ ให้ การจัดลำดับ ‘เลสแท้’ หรือ ‘เลสเทียม’ (อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/47HJN8z) ก็เป็นอีกรูปแบบที่ทำให้เห็นว่าชุมชนหญิงรักหญิงเอาจริงเอาจังกับ ‘อะไรบางอย่าง’ สเตตัสเลสแท้หรือเลสเทียมนั้นมุ่งไปที่ความสัมพันธ์ทางเพศและการแสดงออกทางเพศ ราวกับพื้นที่ท็อปสุดของขุนเขาหญิงรักหญิงสงวนไว้เพื่อคนที่เกิดมาแล้วรู้เลยว่าชอบผู้หญิงเท่านั้น ถ้าไม่ได้ชอบผู้หญิงอย่างเดียวมาตั้งแต่เกิด = เป็นเลสเบี้ยนชั้นสองทันที 

สำหรับคำถามนี้ ตอบตามตรงว่า ‘เส้นแบ่ง’ ของแซฟฟิคที่จริงใจ กับผู้หญิงแท้นั้นอาจมีหรือไม่มีอยู่จริงก็ได้ แต่ความเกลียดกลัวคนรักสองเพศ (Biphobia) มีอยู่จริงแน่ ๆ ในชุมชนแซฟฟิค

#แซฟฟิคที่จริงใจหมายถึงอะไรกันแน่ – ชุมชนหญิงรักหญิงกำลังกีดกันไบเซ็กชวล แพนเซ็กชวล นอนไบนารี่ ทอม และทรานส์หรือไม่ ?

ในขณะที่เรากำลังพูดถึงร่ม ‘แซฟฟิค’ ที่โอบรับผู้นิยามว่าเป็นหญิง (Feminine) ที่ชอบผู้หญิงทุกอัตลักษณ์ แต่สัญญาณ ‘แซฟฟิคที่จริงใจ’ กลับวนเวียนอยู่กับเล็บเจล ผมยาว รองเท้า และเสื้อเชิ้ตอย่างน่าพิศวง ยังไม่รวมความจริงที่ว่าสัญญาณเหล่านั้นไม่ใช่ความจริง แต่เป็น ‘ภาพฝัน’ ของชุมชนแซฟฟิคที่วนเวียนอยู่กับเพศกำเนิดหญิงที่ ‘ดูเป็นสเตรท’ ผู้อยู่ใจกลางของปัญหาความเหงาเท่าจักรวาล และเป็นเพียง ‘รูปแบบเดียว’ ของชุมชนแซฟฟิคที่มีอยู่ในสื่อในขณะนี้

กระบวนการเคลมความเป็น ‘แซฟฟิค’ หนึ่งเดียวของชุมชนหญิงรักหญิงมาในรูปแบบการกีดกันการแสดงออกทางเพศ (Gender Expression) อื่น ๆ ออกไปโดยไม่รู้ตัว แม้ภายใต้เสียงคะขาและอีโมจิหัวใจร้อยดวงจะโอบรับและยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้กีดกันอัตลักษณ์อื่น ๆ (แบบซึ่ง ๆ หน้า) แต่ว่าก็ไม่มีทางจะเป็นตัวเลือก ‘ยอดนิยม’ ที่จะเลือกเดต อย่างที่อ้างถึงบทความข้างต้น ว่าการตัดเกรดเลสแท้เลสเทียมนั้นมันวัดกันที่การไม่ต้องค้นหาตัวเองก็รู้เลยว่าชอบผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าการชอบผู้หญิงมาตั้งแต่จำความได้จะหมายความว่าเธอเป็นเลสแท้ เพราะเธอต้องเป็นคนสวยขา ผมยาว สาวแตกด้วย หญิงรักหญิงที่แสดงออกแบบชายหรือดูเป็นทอม (Butch) ไม่ได้เล็บเจล ผมไม่ยาว = ไม่ใช่เลสเบี้ยน และนั่นอาจหมายถึงคนในชุมชนตัวเป็น ๆ ที่ตกบิ๊วตี้สแตนดาร์ด ซึ่งไม่ถูกนับรวมด้วย

กลุ่มอัตลักษณ์อย่างทอม นอนไบนารี่ หรือแม้แต่ผู้หญิงข้ามเพศ กลายเป็นชนกลุ่มน้อยในชุมชนหญิงรักหญิง ทวนอีกครั้ง แซฟฟิคหมายถึงร่มของอัตลักษณ์ผู้ที่นิยามตนว่าเป็นหญิง (Feminine) ที่ชอบผู้หญิง ที่น่ายินดีอย่างยิ่งคือความพยายามจะ Inclusive ในชุมชนมันประสบความสำเร็จมากหลังจากที่หยิบคำว่า ‘แซฟฟิค’ ไปใช้แทน ‘เลสเบี้ยน’ อย่างแพร่หลาย แต่ในทางปฏิบัติ ดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น ท้ายที่สุด แซฟฟิคแทบไม่มีความหมายต่างไปจาก ‘Cis Lesbian’ ที่หมายถึง หญิงแท้ผู้เกิดมาในร่างทองของพี่สาว เล็บเจล ผมยาว ฉีดน้ำหอมฟุ้งล้านไมล์ ใส่เสื้อลายดอกไม้วัสดุชีฟอง พี่สาวเหล่านี้นี่แหละที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ไปจนถึงยึดหัวหาดแซฟฟิคในขณะนี้ คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าเสียงแห่งความเหงาที่ดังสนั่นนี้เองมาจากความพยายามตามหา ‘Cis Lesbian’ ในชุมชน และมันก็กลายเป็นวังน้ำวนแห่งความเหงาเพราะคนเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ด้วยวิธีการแบบถ้าไม่ถามก็ไม่พูด 

ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าคนไหนกันแน่ที่เป็นพี่สาวในฝัน และไม่เป็นความจริงที่ Gender Expression จะต้องสอดคล้องกับ Sexual Orientation เสมอ และการกีดกันอัตลักษณ์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ ‘อัตลักษณ์ที่กลมกลืน’ คงไม่ใช่เหตุผลเดียวของเสียงแห่งความเหงาที่ดังสนั่น แต่คงจะดีหากเราได้มาย้อนคิดทบทวนถึงผู้คนในชุมชนที่ถูกทอดทิ้งเพราะไม่เป็นผู้หญิงในฝัน แล้วขจัดอคติทิ้งไป เพราะความรักเกิดขึ้นได้ด้วยใจ และ (อาจ) ไม่ใช่แค่ ‘การแสดงออกทางเพศ’ อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

LET’S MAKE SAPPHIC GREAT AGAIN!

#SapphicExistance #QueerVisibility #Biphobia #TransExclusion

*แทยอน Girls’ Generation, คาสึฮะ Le Sserafim, คาริน่า æspa, ซึลกิ Red Velvet และตึกชมพู หมายถึง SM Entertainment ค่ายเพลงในเกาหลีใต้

*มุกดังกล่าวถูกใช้ในเชิงวิพากษ์วิจารณ์การตีความอดีตด้วยสายตารักต่างเพศ (Heterosexual) ของนักประวัติศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลบเลือนอัตลักษณ์เควียร์ (Queer Erasure) ด้วย

Content by Ms.Satisfaction

Graphic by รัชณีกร จำรัสภูมิ

อ้างอิง:

THE NOIZE MAGAZINE: https://bit.ly/3Hw5cXH

R29: https://bit.ly/3HNlBHv, https://bit.ly/48HUSrA

X: https://bit.ly/3S6EbyQ, https://bit.ly/3tT7Cwt

Reddit: https://bit.ly/3OagRio

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

- Advertisement -
Ms. Satisfaction
Ms. Satisfaction
Since it opened my eyes. I can't stop me, can't stop me, can't stop me