#Spectroscope: เหงาค่ะ ก็เลยไปนัดเย็ดมา ชวนคุยเรื่องเซ็กซ์ใต้พรมที่สังคมรังเกียจ จากผู้สาวนัดเย็ด Against Society

- Advertisement -

‘นัดเย็ด’ หมายถึง การนัดไปมีเพศสัมพันธ์ (ฮ่า ๆ ขยายอีกทีเผื่อไม่ชัดเจนพอ) โดยที่อาจไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน และส่วนมากแล้วก็ไม่ต้องการจะรู้จักกันต่อจากนั้น แค่ความสัมพันธ์ทางกายชั่วครู่ ชั่วครั้ง ชั่วคราว การนัดเย็ดกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่แทบจะไม่มีเวลาหรือไม่ได้มุ่งหาความที่สัมพันธ์จริงจังหรือยืนยาว ทางฝั่งยุโรป-อเมริกามีงานวิจัยเชิงสถิติหลายชิ้นมาการันตีว่าการมี ‘เซ็กซ์แบบไม่ผูกมัด’ กลายเป็นเรื่องปกติของคนยุคนี้ไปแล้ว แม้ไทยเองยังไม่มีการทำสำรวจอย่างเป็นทางการ แต่เราในฐานะชาวเน็ตท่านหนึ่งก็รู้กันดีว่าสมัยนี้การมีเซ็กซ์แบบไร้พันธะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้ อ้างอิงจากเรื่องเล่าในโลกออนไลน์ ทั้งวิดีโอคอนเทนต์มากมายที่เซเลปคนแซ่บมาเล่า ‘ประสบการณ์เสียว’ ไหนจะคนอีกเป็นพันใน X (ทวิตเตอร์) ที่พร้อมแชร์เรื่องราวบนเตียง (รวมไปถึงนอกระเบียง และพื้นที่สาธารณะ)

- Advertisement -

ความหนาแน่นของคนพูดเรื่องเซ็กซ์นำไปสู่คำถามว่าทุกวันนี้สังคมไทยโอเคแล้วใช่ไหมกับการนัดเย็ด หรือมันยังเป็นเพียงเรื่องราวที่เอามาเล่าสนุกปากโดยไม่เคยถูกมองเป็นเรื่องจริงจัง ยังไม่มีคุณค่าพอจะเป็นเครื่องมือคลายเหงาด้วยซ้ำไป แล้วตกลงการนัดเย็ดคืออะไรกันแน่ ?

#Spectroscope: เหงาค่ะ ก็เลยไปนัดเย็ดมา ชวนคุยเรื่องเซ็กซ์ใต้พรมที่สังคมรังเกียจ จากผู้สาวนัดเย็ด Against Society

“กล้าพูดเรื่องเซ็กซ์กันขนาดนี้เลยเหรอ”

“เก็บเป็นเรื่องส่วนตัวบ้างก็ได้สาว มันเกินไปอ่ะ”

“เหมือนกลายเป็นเรื่องยกย่องมาอวดกันไปแล้วปะว่าใคร ๆ ก็ต้องนัดเย็ด”

ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเซ็กซ์และ ‘การนัดเย็ด’ กลายเป็นประเด็นถกเถียงเมื่อชาวเอ็กซ์ (อดีตทวิตเตอร์) ชวนกันมาแชร์ประสบการณ์เสียวจนเกิดเป็นเรื่องติติงว่าแกก็พูดเรื่องเย็ดกันมันส์เกิน ยกย่องเซ็กซ์ดีงามเกินไปไหม มันจะทำให้เด็กและเยาวชนต้องไปนัดเย็ดหรือเปล่า ราวกับว่าคลื่นแห่งการแชร์ประสบการณ์เสียวครั้งนี้จะเปลี่ยนมุมมองต่อเพศสัมพันธ์ของคนไทยทั้งผองไปตลอดกาล – ขอเถียงพี่ ๆ ชาวเน็ตนิดหนึ่งได้ไหม ในฐานะหญิงสาวดาวรุ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากเพื่อนผู้มากประสบการณ์นัดเย็ด (พอต้องพิมพ์จริงจังแบบนี้ก็เขินนิดหน่อยเหมือนกัน) ขอสู้สุดใจว่าการนัดเย็ดไม่เคยถูกมองด้วยสายตา ‘ยกย่อง’ เซ็กซ์ในประเทศไทยถูก ‘ยอมรับ’ เฉพาะเมื่อพูดถึงในเชิงวิชาการ การศึกษา โดยท่านผู้ทรงคุณวุฒิที่จบปริญญาเอกโทตรีสาขาความสัมพันธ์ทางกายประกอบด้วยการสอดใส่และอื่น ๆ ระหว่างมนุษย์ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเรื่องเซ็กซ์มันเป็นเรื่องของทุกคน ทั้งคนที่มีเซ็กซ์ คนไม่มีเซ็กซ์ – เซ็กซ์เป็นเรื่องของทุกคน และมันควรถูกพูดถึงในโทนที่เจ้าตัวสบายใจ

#เธอเป็นแค่หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อปิตาตัวร้าย – แล้วพี่เป็นใครจะมา ‘สงสาร’ หนู

การมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัดตกเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมอย่างมากในช่วง 5 ปีหลัง ข้อโต้แย้งหนึ่งที่ถูกยกมาบ่อยครั้งคือการที่คนเพศกำหนดหญิงออกไปมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัดนั้นยิ่งไปตอกย้ำปิตาธิปไตยในสังคม หมายความว่าเพราะผู้ชายส่วนมากเลิฟการมีเซ็กซ์แบบไม่ต้องมีภาระอยู่แล้ว และการที่ผู้หญิงทำแบบนี้ไม่เท่ากับการทำให้ชีวิตผู้ชายพวกนั้นสุขสบายเกินไปหรือ นี่เธอกลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า เรื่องนี้อาจมองได้หลายมิติ และประเด็นแรกคือ ผู้หญิงออกไปนัดเย็ดผู้หญิงเหมือนกันค่ะ ประเด็นต่อมาคือ แล้วในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งเราต้องคอยต้องกังวลถึงผู้หญิงท่านอื่นและเด็กหญิงรุ่นหลังตลอดเลยไหม ทำไมนะ การที่เราจะออกไปตอบสนองความต้องการของตัวเองถึงกลายเป็น ‘การกระทำที่กระทบส่วนรวม’ ขนาดนั้น ทำไมผู้หญิงทุกคนถึงถูกคาดหวังให้แบกความหวังของผู้หญิงอยู่ร่ำไป ทำไมเราคาดหวังให้สังคมเคารพความต้องการของผู้หญิงอย่างเท่าเทียมกันไม่ได้ล่ะ และประเด็นต่อมาคือ อะไรมันจะเฟมินิสต์ไปกว่าการได้ทำอย่างที่อยากทำและได้เย็ดอย่างไม่ต้องสนใจใคร (วะ).

ผู้หญิงเราเพิ่งจะโงหัวขึ้นมารู้จักการได้เย็ดอย่างดี เพิ่งจะได้เรียกร้องการถึงจุดสุดยอดอย่างเท่าเทียมยุติธรรมมาไม่นานนี้เอง แค่ขอออกไปเย็ดเพื่อลดช่องว่างแห่งความสุขสม (Orgasm Gap) หน่อยจะต้องกลายเป็นประเด็นให้พี่ผู้เจริญแล้วมาสงสารเลยหรือ หากมองให้ดีเรื่องนี้อาจเป็นการเสริมสร้างพลังให้เราก็ได้ นี่ร่างกายของเรา ความต้องการของเรา เราก็ทำไปตามนั้น ไม่จำเป็นต้องไปหากรอบคิดวิชาการมาจับปรากฎการณ์นี้เพื่อให้มันกลายเป็นเรื่อง ‘ยอมรับได้’.

เป็นเรื่องจริงที่ช่วงปีหลังมานี้มีการพูดถึงเซ็กซ์ในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น มันถูกพูดด้วยความแซ่บ ขายเสียว มีคอนเทนต์สนุกมากมายเกี่ยวกับเซ็กซ์ แต่ก็ยังปะปนไปด้วยแนวคิดเหยียดเพศ เรายังไม่สามารถ Reclaim ‘ความร่าน’ มาพูดในโทนเสียงยกย่อง เฉลิมฉลองอิสรภาพในร่างกายของเราเองได้ และยังพบว่าเมื่อมีเหตุผิดพลาดเรื่องเพศ ไม่ว่าจะเป็นการท้อง ติดโรค หรือถูกทำร้ายจากการมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัด สังคมที่พร้อมชี้หน้าด่าเหยื่อก็หันมากล่าวโทษคนจำพวกที่ถูกเรียกว่า ‘ร่าน’ หรือ ‘พวกคนนัดเย็ด’ ก็จะต้องถูกกล่าวโทษว่า “แล้วแกไปเย็ดคนแปลกหน้าทำไม” ลามไปถึงเรื่องการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือการพยายามวินิจฉัยโรคไปนู่นว่ามีปมตอนเด็กหรือเปล่า นี่คือการโหยหาสัมผัสแห่งรักหรือไม่ ข้อกล่าวโทษสุดคลาสสิกก็คือ มันไม่มีทางอื่นในการแก้ปัญหาความเหงาแล้วหรือ.

#เย็ดไปก็ไม่หายเหงา – ดีนะที่เราเน้นไปที่การหายเงี่ยน

“แค่มีเซ็กซ์แล้วมันหายเหงาไหม” เป็นหนึ่งในสามล้านคำถามเกี่ยวกับการนัดเย็ด คำตอบคือ ก็อาจจะไม่ แล้วแต่ว่าเรานัดไปมีเซ็กซ์ด้วยสาเหตุอะไรและรูปแบบของเซ็กซ์ที่มีเป็นแบบไหน (ฟีลแฟน ดุดัน รับบทบาทเป็นใคร ฯลฯ) หากมันเป็นแค่ความเหงาที่เป็นความต้องการทางเพศล้วน ๆ การมีเซ็กซ์ก็คงตอบโจทย์ได้ครบจบ แต่ถ้าเหงาแบบต้องการคนคุยคนปลอบใจ การมีเซ็กซ์อาจช่วยได้ถ้าพูดคุยตกลงกับคู่ขาแล้วพากันไปถึงฝั่งฝันตามความต้องการ (เช่น รับบทเป็นแฟนกันไปเล้ย) การมีเซ็กซ์จะช่วยคลายเหงาได้หรือไม่คงต้องกลับไปถามว่าสาเหตุของ ‘ความเหงา’ นั้นมาจากอะไร และเราต้องการกิจกรรมแบบไหนที่จะคลายความเหงานั้น– แต่ความเหงาไม่ใช่ใจความที่เราชวนคุย เรากำลังพยายามพูดว่า “เซ็กซ์ไม่ใช่ตัวปัญหา” และเราเหนื่อยใจเหลือเกินที่เซ็กซ์ต้องตกเป็นตัวร้ายในสงครามศีลธรรมตลอดมา เพราะไม่เคยถูกมองว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือหรือวิธีการช่วยคลายเหงา.

คำแนะนำสุดฮอตในคู่มือของผู้ให้คำแนะนำเรื่องความเหงาก็คือ “ลองออกไปเดท” “ลองไปมีแฟน” เพราะการไปพูดคุยกับมนุษย์ ได้มีบทสนทนาอันลึกซึ้ง และการมีความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกถูกให้ค่าว่าดีงามและเหมาะสมกับการคลายเหงา นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือทำไมการมีเซ็กซ์ถึงถูกมองแบบนั้นด้วยไม่ได้ หรือเรากำลังติดหล่มความดีงามอะไรกันอยู่หรือเปล่า.

#คำถามสุดช็อตประจำวงการนัดเย็ด – “ไม่กลัวตายเลยหรือ” คำตอบคือ กลัวค่ะ แต่ว่าเงี่ยน

ปูเรื่องราวกันอีกที ว่านี่คือการนัดกับคนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้แม้กระทั่งว่าชื่อที่ให้มาเป็นชื่อจริงไหม การจะไปอยู่ในที่ส่วนตัวลับหูลับตากับเขามันย่อมน่ากลัวอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ในความเห็นของหญิงสาวที่สูง 155 ซม. และมีแรงบีบมือต่ำกว่ามาตรฐาน หนทางที่ทำกันในแวดวงชาวเราก็คือการส่งโลเคชั่นให้เพื่อนไว้ ถ้ากูตายขึ้นมา ฝากมึงทวงความยุติธรรม ทำกันเป็นปกติ ล้อเล่นขำขันจนชิน.

แต่ถ้าลองนึกถึงเรื่องนี้ด้วยโทนปรับแสงมืด ใส่เพลงประกอบหนังสยองขวัญเข้าไปนิด ก็จะเข้าใจทันทีว่า นี่มันโคตรน่ากลัว การที่เรายอมรับกันขำ ๆ ว่า “อีห่า กูอาจตายก็ได้” นี่เรากำลังทำให้การนัดไปมีเพศสัมพันธ์น่ากลัวไปหรือเปล่านะ แต่ขอย้ำว่าที่ผ่านมาเราปลอดภัยดี และคนในวงการก็มีมารยาทและธรรมเนียมปฏิบัติที่แม้ไม่ได้พูดออกมาแต่ก็พากันรักษาไว้ และย้ำอีกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีการโทษเหยื่อเด็ดขาด! หากเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นก็ขอให้มองเรื่องนี้แบบที่มองเหตุร้ายอื่น ๆ นั่นคือผู้ถูกกระทำย่อมไม่ผิด การเอาตัวเองไปอยู่ในที่ไหนไม่ใช่ประเด็น และหากใครที่มองเหยื่อจากกรณีนี้ต่างออกไป หากคิดว่าพวกเขา ‘สมควร’ ถูกทำร้าย หรือ ‘ไม่แปลกใจ’ ที่ต้องตกเป็นเหยื่อ นั่นอาจหมายความว่าคุณมีอคติกับเรื่องเซ็กซ์หรือเปล่า หรือว่าอาจเป็นคนเหยียดเพศ หรืออาจจะเป็นคนที่คิดว่าตัวเองดีกว่าใคร ๆ เพราะว่ามีเซ็กซ์อย่างถูกต้องเหมาะสมในความสัมพันธ์ที่คนทั้งสังคมยอมรับ.

#ตกลงทุกวันนี้สังคมไทยโอเคแล้วใช่ไหม – เราคิดว่าไม่ สังคมไทยไม่โอเคกับการนัดเย็ด

ทางที่จะตรวจสอบได้ดีที่สุดคือถามตัวเองว่าถ้าเราเป็นคนที่นัดเย็ด เราจะกล้าพูดเรื่องนี้กับคนอื่นไหม เราสามารถเล่าให้ใครฟังเหมือนที่เราเล่าได้ไหมว่า วันนี้นัดไปดินเนอร์ ไปเดทที่พิพิธภัณฑ์ เราพูดแบบนี้กับการนัดเย็ดได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ อะไรทำให้การนัดเย็ดยังต้องเป็นความลับ เพราะเซ็กซ์ถูกผูกติดกับคุณค่าของเราหรือเปล่า หรือคิดว่ามันเป็นแค่ภาวะว้าวุ่นของฮอร์โมน ค่อย ๆ คิดหาคำตอบไปก็ได้ เพราะอีกนานกว่าสังคมจะเปิดกว้างกับการพูดเรื่องเซ็กซ์ปลอดภัย โดยปราศจากอคติ.

หลายคนรวมถึงเราโชคดีที่มีเพื่อนที่เข้าใจ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีพื้นที่ปลอดภัยแบบนี้ ไม่ใช่ทุกคนจะมีคนที่มั่นใจได้ว่าจะไม่ตัดสินเราจากพฤติกรรมทางเพศ เรามีเพื่อนที่รู้ว่าที่ทำไปไม่ใช่ไม่กลัวตาย ไม่ได้เงี่ยนจนหน้ามืดตามัว เรามีระบบในการปกป้องตัวเองพอสมควร เรามีเพื่อนที่รู้ว่าจะบึ่งมาทันทีที่เรามีปัญหา แต่เรากล้าพูดว่าตอนนี้สังคมยังไม่ได้ยอมรับการมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกพันแบบนั้น เรายังต้องเดินทางกันอีกไกล.

#นัดเย็ด #รังสิตมันร้าย#hookupculture #SexPositivity

Graphic by รัชณีกร จำรัสภูมิ

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

- Advertisement -
Ms.Chapman
Ms.Chapman
a senior baby girl