วันนี้ (15 ส.ค.) คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งนัดแนะกันมาพบกันที่หน้าพรรคเพื่อไทย เป้าหมายคือมาให้กำลังใจพรรคให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ โดยการนัดแนะนั้นไม่ได้มีอะไรมาก ไม่มี Artwork ไม่มีคำปลุกใจ ไม่มีพิธีรีตองอะไร แค่โพสต์ Facebook สวมใส่เสื้อแดงที่เป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตยมายาวนาน มอบแถลงการณ์ และถ่ายภาพร่วมกัน
และนอกเขตพรรคเพื่อไทยวันนี้ ก็มีประชาชนกลุ่มหนึ่งมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการเอา “เสื้อแดง” มาเผา มีควันระอุอยู่ไม่นานที่ริมถนนเพชรบุรี เช่นเดียวกับสื่อมวลชนที่รุมล้อมอยู่สักพักแล้วก็หายไป คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งยืนมองเสื้อแดงที่ถูกเผา บางส่วนไม่ได้มองเฉย ๆ แต่ตะโกนด่าไปด้วยจากไกล ๆ เป็นบรรยากาศแบบประชาธิปไตยที่คนบางส่วนอาจไม่คุ้นเคยเท่าไร เพราะอยู่ในสังคมเผด็จการมานานถึง 8-9 ปี
เสียงบางส่วนใน X (อดีตทวิตเตอร์) บอกว่าคนเลือกเพื่อไทยได้ต้องจิตแข็ง เราก็เห็นคนจิตแข็งบางส่วนที่ไม่ใคร่จะสนใจอะไรกับเสียงเรียกร้องริมฟุตบาธ สั่ง ‘มิ้นต์ช็อก’ เมนูดังคนละแก้วสองแก้วที่ ThinkLab แล้วตั้งวงสนทนาการเมืองตามประสาคนรักประชาธิปไตย เพียงแค่มองเผิน ๆ ก็รู้ว่าคนหลายสิบชีวิตในพื้นที่นี้เห็นหัวอกกันดี คุ้นเคยกันมานาน และเรียกขานกันด้วยชื่อเล่น ตามด้วยสถานที่ ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันตั้งแต่สมัยเป็นเสื้อแดงกันใหม่ ๆ เช่นเดียวกับแม่ป้าเสื้อแดงที่เราได้โอกาสพูดคุยด้วยในวันนี้ ผู้นัดแนะมวลชนให้กำลังใจพรรคกันผ่าน Facebook ‘อ.เป้า สิงห์บุรี’ หนึ่งในพิธีกรรายการ Red Talk Live ที่ออกอากาศผ่าน TV24 สถานีประชาชน
ในวันที่เสื้อแดงถูกเผาทิ้งไม่เว้นวัน เสียงส่วนใหญ่ดูแคลนว่าคนที่ยังเลือกเพื่อไทยงมงาย ละทิ้งหลักการประชาธิปไตยไปแล้วหมดสิ้น Spectrum ชวนมาฟังมุมมองของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่วันนี้เรียกตัวเองว่า “แดงพันธุ์แท้ 1000000%” ว่าเขาคิดและเห็นการเมืองไทยเป็นแบบไหน ทำไมต้องมีแดงพันธุ์แท้ แล้วทำไมพวกเขายังไว้ใจให้พรรคที่ถูกถล่มว่าหักหลังประชาชน เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยให้สำเร็จอีกครั้ง
“เราเป็นเสื้อแดงที่มาจากการที่รัฐบาลท่านทักษิณโดนรัฐประหาร และเราก็ออกกันมาโดยไม่ได้นัดหมาย ถ้าน้อง ๆ เกิดทันนะคะ”
อ.เป้า สิงห์บุรีเริ่มเท้าความความเป็นมาของคนเสื้อแดงอย่างใจเย็น ท่ามกลางบรรยากาศที่ป้า ๆ แม่ ๆ คนเสื้อแดงเดินทักทายกันไม่หยุดหย่อน ต่างคนต่างมีเสื้อแดงหลากหลายอิดิชั่น บ้างก็ดูเป็นเสื้อตัวเก่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวแต่สียังแจ่มชัด บ้างก็เป็นเสื้อพรรครุ่นใหม่ที่ขายอยู่หน้าที่ทำการ แต่ที่เหมือนกันคือทุกคนใส่เสื้อสีแดงสดอย่างภาคภูมิใจ
“ที่อนุสาวรีย์ฯ ตรงผ่านฟ้า ราชประสงค์ พระบรมรูปทรงม้า ที่เราไปเป็นหมื่นเป็นแสนคนเลย ครั้งแรกที่เรามา อันนั้นเรามากันโดยฟังจากรายการ ‘ความจริงวันนี้’ ออกจากทาง NBT ตอนนั้น เราก็เห็นว่ารัฐบาลพรรคไทยรักไทยตอนนั้นไม่ได้รับความยุติธรรม เราก็ออกมา ต่างคนต่างออกมา แล้วจนกระทั่งครั้งแรกที่มีการชุมนุมจริง ๆ ก็คือที่เมืองทองธานี ครั้งนี้จะมีพวกแกนนำ คือเป็นการปราศรัยให้กับพี่น้องประชาชนฟัง เรื่องราวที่มาที่ไปของการโดนรัฐประหาร แล้วเราก็เริ่มมีเสื้อแดงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาเอาเสื้อแดงมาขายด้วย เราก็ซื้อเสื้อแดงกันใหญ่เลย กลายเป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเราจะต้องใส่เสื้อแดง เสื้อแดงคือประชาธิปไตย เพื่อความถูกต้อง เราต้องการความยุติธรรม ต้องการให้อำนาจเผด็จการออกไป”
“ครั้งที่สองก็จะมีที่ราชมังคลาฯ อันนั้นเราก็ไปกันเองนะคะ ไม่มีการจัดตั้ง ไม่มีการจ้างวานอะไรทั้งหมด ต่างคนต่างมา เต็มราชมังคลาฯ เลยค่ะ ต่อจากนั้นในเมื่อเผด็จการยังไม่ไปสักที เราก็เริ่มชุมนุมเรียกร้อง หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เราต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชน ให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะคุณอภิสิทธิ์มาไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นจึงเกิดที่มาที่ไปของการปกป้องประชาธิปไตย ของคนเสื้อแดงที่ออกมาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา”
วันนี้ทุกคนมาในฐานะ “แดงพันธุ์แท้” สิ่งนี้คืออะไร ?
“แดงพันธุ์แท้หมายถึงแดงที่ยังรักเพื่อไทย เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย จากไทยรักไทย เป็นพลังประชาชน เป็นเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยท่านทักษิณ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่เราคิดว่าไม่น่าจะทำได้ กองทุนหมู่บ้านก็ไม่คิดว่าจะทำได้ ยังมีอีกหลาย ๆ นโยบายที่พรรคไทยรักไทยทำได้จริง ๆ ทำให้เรารักและศรัทธาท่าน พี่น้องประชาชนตามต่างจังหวัดก็อยู่ดีกินดี มีบ้านใหม่ ๆ อยู่ ตอนนี้ต้องขายบ้านขายรถหมดแล้ว หลังจากที่รัฐบาลเผด็จการมา 8-9 ปี พอมีพรรคการเมืองจะเริ่มตั้งดี ๆ ก็มีรัฐประหารทีนึง ประเทศไทยเราเลยเป็นอย่างนี้”
“มาปัจจุบันนี้ ในเมื่อมีรธน.60 ที่สว.จะต้องมาเลือกนายกรัฐมนตรี พวกเราเลยจำเป็นจะต้องให้พรรคเพื่อไทยทำยังไงก็ได้ พวกเรายินยอมค่ะ ทำยังไงก็ได้เพื่อตั้งรัฐบาลเพื่อไทยให้ได้ เพื่อที่จะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ นี่คือเรื่องอันดับ 1 อันดับที่ 2 คือแก้เศรษฐกิจของประเทศ เพราะตอนนี้ประชาชนลำบากยากแค้นมาก ๆ เราก็เลยอยากให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาแก้ปัญหาให้ได้ วันนี้เรามา เรานัดกันทาง Facebook นะคะ อย่าคิดว่าก้าวไกลทำได้อย่างเดียวนะคะ เพื่อไทยทำได้ค่ะ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเราเพลี่ยงพล้ำจากก้าวไกลเพราะเรื่อง Social เรื่องเอไอไอโออะไรของเขา ข่าวลวงข่าวลับอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งตอนนี้พวกเราพยายามสู้กับเค้าทางอินเตอร์เน็ตเหมือนกันค่ะ”
ในวันที่ประชาชนบางส่วนเลือกลงถนนเพื่อเรียกร้องให้แกนนำจัดตั้งรัฐบาลเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน คนเสื้อแดงมาทำอะไรที่ทำการพรรค
“วันนี้มันใกล้จะตั้งรัฐบาล พี่น้องหลาย ๆ จังหวัดก็คุยกันว่าเราควรจะมาให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยเยอะ ๆ เพราะว่าพรรคเพื่อไทยโดนกระแสกดดันมาก จากทั้งเสื้อแดง จากทั้งฝ่ายประชาธิปไตยที่เขาไม่รู้จริงว่าการที่จะมาเป็นรัฐบาลเพื่ออะไร เรามาเพื่อจะแก้รัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นทำยังไงก็ได้ ทุกวิถีทางควรที่จะให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลให้ได้ เพราะเรามีเสียงมาก คราวที่แล้วเราก็เป็นเสียงอันดับ 1 เรายังให้อนาคตใหม่ ให้คุณธนาธรเป็นนายกฯ เลย ทำไมเราทำได้ ครั้งนี้คุณพิธาไม่ยอมเลย ตอนแรกเราเชียร์ก้าวไกลอยู่นะคะ ตั้งแต่สมัยไทยรักษาชาติโดนยุบ บอกว่าให้พี่น้องเราเลือกอนาคตใหม่กับพรรคเสรีรวมไทย 2 พรรค แต่พอหาเสียงโค้งสุดท้าย (เลือกตั้ง 66) ก็มาโจมตีเพื่อไทยหาว่ามีเราไม่มีลุง ซึ่งตอนนั้นคุณอุ๊งอิ๊งค์คลอดพอดี ตอนแรกโพลเราเป็นอันดับ 1 ไปๆ มาๆ เราตกลงมา เพราะฉะนั้นตอนนี้เราตั้งหลักได้แล้วนะคะ เรามั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมายิ่งใหญ่”
มวลชนเสื้อแดงคิดเห็นอย่างไร ในวันที่ใคร ๆ ก็ว่าเพื่อไทยหักหลังประชาชน
“ตอนนี้เราพยายามเข้าไปพูดคุยกับพี่น้องเราแต่ละกลุ่มที่ออกมาต่อต้านพรรคเพื่อไทย ตอนนี้ที่เขาบอกว่ามีเราไม่มีลุง ลุงตู่ก็ออกไปแล้ว แต่ลูกน้องจะมาเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนลุงป้อม ทางคุณไผ่ลิกค์ก็บอกว่ายินดีจะโหวตให้จัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะเข้าร่วม เพราะฉะนั้นก็อยากให้พี่น้องเสื้อแดงเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยกระอักกระอ่วนใจมากเลย ทั้งที่เราก็ไม่อยากได้เผด็จการเพราะเราต่อสู้กับเผด็จการมาตลอด แต่ในเมื่อรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ เราก็จำเป็นที่จะต้องเลือก ใครที่จะมาช่วยเราเราเอาหมด ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่จะมาช่วยโหวตเราเป็นนายกฯ เพื่อให้ได้ 376 เสียง”
ในมุมมองของ อ.เป้า มองความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกลอย่างไร
“จริง ๆ เราอยากจะจับมือกันใจจะขาด คุณพิธาคุณจำไม่ได้ คุณเป็นเหมือนดารา ชอบพูดอะไรต่อมิอะไรเพ้อเจ้อ แต่ไม่ยอมอลุ่มอะหล่วยกับพรรคเพื่อไทย ตอนเลือกประธานสภาเขาก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับเพื่อไทยเลย จนกระทั่งวันสุดท้ายถึงจะรู้ว่าจะเอาใครมาเป็นแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร เราเสนอเพื่อไทยไปก็ไม่ยอม คุณเป็นนายกฯ แล้ว ให้พรรคเพื่อไทยเป็นประธานสภาก็ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่คะแนนมันต่างกันแค่ 10 ที่นั่ง แล้วของเขากับของเรานะคะ ในการเป็นประธานสภาต้องมีวุฒิภาวะ เหมือนโรงเรียน หรือบริษัท เอาคนที่เป็นภารโรงเป็นประธานบริหารมันได้หรือคะ มันเปรียบเทียบกันแบบนั้นว่าวุฒิภาวะในการบริหารประเทศหรือการบริหารสภาคืออะไร ต้องสามารถที่จะควบคุมสภาได้ แล้วดูสิว่าตอนนี้คนที่เป็นแคนดิเดตประธานสภาของพรรคก้าวไกลไปจิบเบียร์โชว์ นี่มันถูกต้องหรือเปล่า ตอนนี้คุณมีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาแล้วคุณต้องเรียบร้อย ต้องศึกษาข้อกฏหมายดีดี”
“ผู้ใหญ่ยอมไม่เป็นไร แต่พวกเราไม่ยอมแล้ว ยังไงก็ได้ขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คุณจะไปเอาลุง เอาป้าน้าอาที่ไหนมาเลยค่ะ มาเลย ขอให้เป็นรัฐบาลอย่างเดียว เพื่อมาแก้ปัญหาของเราให้ได้”
จริงหรือที่สื่อไม่รักพรรคเพื่อไทย
“จริง เรื่องจริง แทบไม่อยากจะดูทีวีเลย พอไปดูทีวีแล้วเจอ อย่างช่องสาม คุณสรยุทธ ทำแต่ข่าวคุณพิธา พิธา พิธามาตลอด วันที่เขาไปปราศรัยที่ระยองเมื่อ 2 วันก่อนก็โจมตีพรรคเพื่อไทยเรื่องมีเราไม่มีลุงนี่อีกแล้ว เพราะฉะนั้นการที่คุณจะให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลมาเป็นมิตรกัน ถ้าคุณทำแบบนี้ยิ่งแปลกแยก”
“สื่อเหมือนเสี้ยมเลยในความรู้สึกของพี่ แทนที่จะให้เขาปรองดองกัน ว่าแต่เพื่อไทยตลอด พี่ก็อยากให้สื่อทำตัวเป็นกลางจริง ๆ ไม่ใช่ไปเอาอันนู้นอันนี้มาปะติดปะต่อ ตอนนี้ยิ่งง่ายในการทำสื่อ อย่างกรณีพรรคก้าวไกลที่ไปทะเลาะกับประชาชน ตอนแรกคนที่มาทำร้ายก่อนน่าจะเป็นคนผิด แต่สื่อก็เลือกนำเสนอ เอาตรงที่เขาไม่ผิดออกซะ ภาพก็เลยออกมาไม่ดี สื่อเป็นสิ่งสำคัญมาก คนจะดูโซเชียลตลอด สื่อขอให้วางตัวเป็นกลาง เพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าให้ได้ ไม่ใช่มาทำแบบนี้”
“เวลาที่ก้าวไกลโหวตเป็นรัฐบาล เพื่อไทย 141 ขาดสักเสียงมั้ยคะ เขาโหวตให้หมดเลย 141 แล้วจะเอาอะไรกับเราอีก ต้องการอะไร เราเลือกเพื่อไทยให้มาเป็นรัฐบาล ไม่ได้ให้มาเป็นฝ่ายค้าน”