- Advertisement -
“นี่คือโอกาสที่ทุกคนและทั้งโลกจะได้เห็นว่า แดร็กควีนเมืองไทยเก่งขนาดไหน”
ล่าสุดทางเพจออฟฟิเชียลของรายการแข่งขันแดร็กชื่อดังระดับโลก ‘RuPual’s Drag Race’ ได้ประกาศจะมีรายการใหม่ล่าสุด ‘RuPual’s Drag Race UK vs The World’ ที่ได้สร้างเสียงฮือฮากระฉ่อนไปทั่วโลก โดยมี “Pangina Heals” co-host ของรายการ ‘Drag Race Thailand’ ที่เป็นแดร็กควีนไทยคนแรกที่ได้ไปแข่งขันในรายการนี้
โดยรายการที่ว่านี้ เป็นรายการเรียลลิตี้ ที่นำอดีตผู้เข้าแข่งขันจากรายการของสหราชอาณาจักร มาแข่งขันกับแดร็กควีนจากเฟรนไชน์ของ Drag Race ทั่วโลก เรียกได้ง่าย ๆ ว่านี่คือเวอร์ชั่น “รวมดาว” (Allstars) นานาชาติ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการรูพอลแดร็กเรซ เพื่อชิงมงกุฎ และตำแหน่ง “Queen of the World”
วันนี้เราเลยได้ชวน Pangina Heals หรือ ‘คุณปันปัน นาคประเสริฐ’ มาพูดคุยถึงประสบการณ์การเป็นตัวแทนของประเทศไทย ที่เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันครั้งแรกของคุณปันปันบนเวทีแดร็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในครั้งนี้อีกด้วย
“เป็นเกียรติที่สูงส่งมาก ๆ เพราะว่าเราเป็นคนที่ดูรายการนี้ตั้งแต่ตอนแรก ๆ เลย และที่เราใช้ชื่อว่า Pangina เพราะปันดู ‘Ongina’ จากแดร็กเรซซีซั่นแรก คือได้แรงบันดาลใจจากนางมาก เราไม่เคยเห็นแดร็กควีนที่แบบ เป็น Asian Representation และบอกเล่าเรื่องราวของเธอขนาดนี้ และเราได้แรงบันดาลใจจากการที่เค้าเป็น Fashion Queen ด้วย และมันตรงจริตเรามาก ๆ”
“รายการนี้เราก็ดูมาหลายซีซั่น แต่งหญิงมา 11 ปี มีคนบอกให้ปันไปแข่งแดร็กเรซบอกกว่าคนถามชื่อปันอีก เลยรู้สึกว่าพอเค้าชวนมาครั้งนี้ มันไม่ได้แค่เป็นเกียรติอย่างเดียว คือเค้าชวนในรูปแบบที่มันเป็น Allstars แสดงว่าปันไม่เคยแข่งมาก่อน ปันคือม้ามืดของรายการจริง ๆ”
ถ้าเราได้มาดูผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 8 คนที่เหลือ นี่คือเพชรน้ำดีจากหลาย ๆ เฟรนไชน์ทั่วโลกจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ‘Jujubee’ และ ‘Mo Heart’ ที่เคยแข่งขันมาหลายรอบในรายการของแดร็กเรซอเมริกา ‘Jimbo’ และ ‘Lemon’ อดีตผู้เข้าแข่งขันสุดแกร่งจากแคนาดาแดร็กเรซ ‘Janey Jacké’ ผู้เข้าแข่งขันดีกรีรองอันดับ 1 จากแดร็กเรซประเทศฮอลแลนด์ และสามควีนรวมดาวจากแดร็กเรซ UK ‘Baga Chipz’ ‘Blu Hydrangea’ และ ‘Cheryl Hole’
- Advertisement -
“การที่ปันเป็น co-host แล้วอยู่ดี ๆ มาแข่ง หลาย ๆ คนก็คิดว่า ทำไมปันลดตัวเอง อยากจะพูดเลยนะ คุณคิดผิดมากเลยที่คิดว่าลดตัวเอง ปันเป็นคนมั่นใจในตัวเองแต่ปันไม่มีอีโก้ คุณไม่สามารถจะเป็นครูที่ดีได้ ถ้าคุณไม่สามารถจะเป็นนักเรียนที่ดีได้ ปันพร้อมที่จะเรียนรู้ และความคิดเห็นของคนที่ปันนับถือ ไม่ว่าจะเป็น ‘RuPaul’ หรือ ‘Michelle Visage’ (กรรมการหลักของรายการนี้) ปันนับถือพวกเขา 2 คนมาก เพราะฉะนั้นปันอยากฟัง ว่าเขาคิดว่าปันจะเป็นแดร็กควีนที่ดีขึ้นยังไง จากประสบการณ์ทั้งหมดที่ปันสั่งสมมา”
“การที่ปันไปแข่งรายการที่ปันใฝ่ฝันอยากจะไป และเป็นตัวแทนประเทศไทย มันเหมือนกับ ปันได้สานฝันในเวทีที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่มีคนไทยเคยได้ไป และที่เราไปเนี่ย เหมือนไปทำแลนด์มาร์คไว้ว่า คนไทยวัฒนธรรมเป็นแบบนี้ แฟชั่นเป็นแบบนี้ และภาษาก็ไม่ใช่ปัญหาของฉัน ฉันสามารถสู้พวกเธอได้”
“ปันแค่อยากฝากให้ทุกคนช่วยเชียร์หน่อย เพราะว่าไม่เคยมีคนไทยไปแข่งอะ อยากได้กำลังใจและเข้ามาเชียร์ #TeamPangina หน่อย เพราะว่าแบบนี่คือโอกาสที่ทุกคนและทั้งโลกจะได้เห็นว่า แดร็กควีนเมืองไทยเก่งขนาดไหน ที่ปันใส่ทุกชุด ทุก ๆอย่างที่อยู่บนตัวปัน เป็นไทยดีไซเนอร์ทุกชิ้น พี่ผักกาด Tube Gallery ณรงค์ ฯลฯ คือวงการแฟชั่นก็ช่วยสุดฤทธิ์ เพราะฉะนั้นไปครั้งนี้…”
“มงสามต้องมา”
เราได้ถามคุณปันปันลึกลงไปอีก ถึงจุดเริ่มต้นในการเป็นแดร็กควีนของเธอ ภาพจำและความเข้าใจผิดของสังคมที่มีต่อแดร็กควีน ตลอดจนตราบาปของ ‘ความเป็นหญิง’ ที่มักจะถูกสังคมเหยียดหยาม
“จริง ๆ ปันเป็นแดนเซอร์ แล้วเราก็คลุกคลีกับวงการนางโชว์มาก่อน แล้วปันก็ชอบไปดู ซึมซับไปเรื่อย ๆ จนเหมือนมีงาน ๆ หนึ่ง แล้วนางโชว์เค้าไม่ได้มา ช่างแต่งหน้าตรงนั้นก็เลยบอก เอ้อ งั้นลองแต่งให้ดูแล้วลองโชว์มั้ย เพราะเธอก็เป็นแดนเซอร์ เธอน่าจะโชว์ได้ แล้วหลังจากนั้นก็คือ เราอินมาก ปันรู้สึกว่ามันได้ปลดปล่อยและได้โชว์ความเป็นผู้หญิงหรือความอิสระในตัวของเรา ที่สังคมไม่ยอมรับหรือไม่อยากให้เป็น”
แล้วเมื่อเราถามต่อว่าทำไมสังคมถึงไม่ยอมรับความเป็นผู้หญิงเหล่านั้น เธอก็ได้ตอบว่า – “ถามปันปันจะไปรู้เหรอ มันเป็นสิ่งที่ปันคิดเหมือนกันว่าทำไมไม่ยอมรับสักที ถ้าเกิดผู้ชายแต่งเป็นผู้หญิงออกไปก็โดนด่า มันคือผ้า คุณรู้รึเปล่ามันคือผ้า แล้วแบบคนฆ่ากันได้เพราะผ้านี่นะ มันไร้สาระมากสำหรับปัน แล้วปันรู้สึกว่ามันต้องเปิดใจกว้าง ถ้าเราไม่ชอบที่จะแต่งหญิง เราก็อย่าแต่งหญิง แล้วไปยุ่งอะไรกับคนอื่น”
“เราดูในประวัติศาสตร์มาแล้วกี่ปี ว่าสังคมไม่ได้ถูกเสมอไป สมัยก่อนผู้หญิงก็ไม่สามารถเลือกตั้งได้ เพราะฉะนั้นสังคมมันมีความชายเป็นใหญ่ ที่กดขี่ผู้หญิงและสิ่งที่เกี่ยวกับการเป็นผู้หญิงมาก เพราะสังคมชายเป็นใหญ่มองสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อ่อนแอ”
“แดร็กมันเป็นการ “say ‘fuck you’ to patriachy society” อย่างมากที่สุด เพราะการที่เราเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะที่ปันเป็นลูกคนจีน แล้วปันออกมาแต่งหญิง ใส่ส้นสูง ใส่กระโปรง มันเป็นการบอกว่า กูไม่ฟังมึง กูไม่ได้แคร์กับสิ่งที่มึงคิด ชั้นจะไม่อยู่ในกรอบ และฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังได้ ในการที่ฉันเป็นผู้หญิง”
ซึ่งถ้าเราย้อนเวลากลับไปในประวัติศาสตร์ แดร็กควีนนั้นก็ได้เติบโตมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวมากมาย เช่นเดียวกับคุณปันปัน ที่ได้ใช้เสียงของตัวเองขับเคลื่อนสิทธิเพื่อเพศหลากหลายต่าง ๆ
“ปันคิดว่าถ้าเกิดเรารู้ประวัติศาสตร์ของเรา ทุก ๆ กลุ่มคนชายขอบ (Minority Group) จะมีการปฏิวัติ (Revolution) เพราะฉะนั้นสำหรับ LGBT+ มันมีสโตนวอลล์ แล้วคนที่ทำให้เกิดเป็นการปฏิวัติสโตนวอลล์ยุค 70s นั่นคือแดร็กควีน (Marsha P. Johnson) ด้วย”
“เพราะฉะนั้น ปันได้ใช้แพลตฟอร์มของปันหรือเสียงของปัน เพื่อแก้สิ่งที่ปันรู้สึกว่ามันผิดในโลกนี้ ในช่วงโควิดปันก็ ทำโครงการการกุศลเพื่อช่วยคนที่ประสบปัญหาเรื่องเงิน หรือปันก็พูดมาตลอด พูดออกสื่อมาตลอด คือปันเชื่อในเรื่องสิทธิคนข้ามเพศ (Trans Rights) สุด ๆ เขาควรที่จะเลือกได้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงในบัตรประชาชน และเมืองไทยก็ควรจะมีกฎที่ปกป้องเพศหลากหลายในที่ทำงาน ซึ่งก็ไม่มี”
“การที่ปันออกมาพูดเรื่องการเมือง สิ่งแรกที่คนด่าปันคือด่าปันเรื่องเพศก่อน อีตุ๊ดอีกะเทยอีประหลาดอีผิดเพศ คำพวกนี้มันจะมาก่อน มันน่าสนใจเนาะ เพราะว่าคนเขาจะเล่นในมุมที่เค้าไม่เข้าใจ หรือมันจะโชว์ให้เราเห็นอะว่าเค้าใจแคบขนาดไหน แล้วเค้าไม่พร้อมที่จะคุยกับเรา เค้าไม่พร้อมที่จะเข้าใจเหตุผล แล้วบางครั้งเราก็ไม่สามารถที่จะคุยกับคนที่ไร้เหตุผลได้ ทำไปก็เหนื่อย”
“ฉันเป็นคนไทย ฉันรักประเทศไทย ฉันแค่รู้สึกว่า ถ้าเกิดมันมีอะไรบางอย่าง ที่เราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้ เราควรที่จะเปิดใจคุยกัน ไม่ใช่ไม่ฟังอย่างเดียว”
สามารถติดตามอินสตาแกรมของ Pangina Heals ได้ที่: https://bit.ly/3rwsqED
#PanginaHeals #DragRace
#DragRaceUK #DragQueen
#RuPaulsDragRace
Content by Alexis to Your Mimi
Graphic by Napaschon Boontham
อ่านคอนเทนต์เรื่องเพศอื่นๆ: https://bit.ly/3hhRUzp
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
- Advertisement -