- Advertisement -
SEX EDUCATION: คุยเรื่องเพศกับคุณหมอเมย์ – พญ.เมชฌวิกาศ์ อารยางกูร แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป และเจ้าของเพจ @หมอเมย์ – แม่บ้านมีเลข ว.
รวบรวมคำถามจากคนที่ส่งเข้ามาถามในกลุ่ม เพศ
*เพศในข้อมูลการแพทย์นี้คือเพศทางชีววิทยา
■ การฝังยาคุม มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
“การ #ฝังยาคุม จัดเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน ดีกว่าทำหมันเสียอีก #ข้อดี ของการฝังยาคุม คือ #คุมดี โดยมีโอกาสพลาดเพียง 0.05%, #คุมนาน 3-5 ปี ตามชนิดของเข็มยาคุม, ไม่ต้องกังวลเรื่อง #ลืมกินยา และไม่กระทบต่อการให้นมบุตร #ข้อเสีย ของการฝังยาคุม คือ ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น, เพิ่มความอยากอาหาร, อาจมีสิวเพิ่ม และอาจมีประจำเดือนกระปริบกระปรอยหรือประจำเดือนไม่มา
สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฝังยาคุม มีหลายข้อเลย
* ฝังยาคุม ไม่ได้แปลว่า จะไปมั่วเซ็กซ์ได้ เพราะไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
* ฝังยาคุมแล้ว ประจำเดือนไม่มาเลย พบได้เป็นปกติ
* ฝังยาคุม ไม่ได้ทำให้อ้วน แต่แค่เพิ่มความอยากอาหารเท่านั้น
การฝังยาคุมฟรี ทำได้ในวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีบริบูรณ์ จนถึงก่อน 20 ปีบริบูรณ์ โดยไม่ต้องมีผู้ปกครองพาไป ทำได้ที่สถานพยาบาลของรัฐ”
■ อายุยังไม่มากแต่รอบเดือนไม่มาหลายปีแล้ว เกิดจากอะไร?
“อาการนี้ อาจต้องระวัง PCOS หรือ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ #PCOS คือภาวะที่มีถุงน้ำเล็กๆ ขนาด 2-9 มิลลิเมตร ในรังไข่ จำนวน 12-20 ถุง พบได้มากถึง 10% ของวัยเจริญพันธุ์ ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ไม่ใช่มะเร็ง ไม่ทำอันตรายต่อรังไข่
อาการต้องสงสัย คือ ประจำเดือนมาน้อย นานๆ มาที หรือไม่มาเลย, มีลักษณะของฮอร์โมนเพศชายสูง คือ สิวเยอะ หน้ามัน ผมร่วง มีขนตามร่างกายเยอะผิดปกติ ผลที่ตามมา คนที่เป็น PCOS จะเสี่ยงต่อมะเร็งโพรงมดลูก, โรคเบาหวาน ความดัน และไขมันมากกว่าคนปกติ รวมถึงมีลูกยาก เนื่องจากไข่ไม่ตก หากมีอาการที่สงสัย แนะนำพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจฮอร์โมน หรืออัลตราซาวน์ และทำการวินิจฉัยให้ชัดเจนต่อไป
การรักษา ต้องบอกก่อนว่า #ดีขึ้นได้แต่ไม่หายขาด สำคัญที่สุดคือ #การลดน้ำหนัก จะทำให้อาการต่างๆ ของ PCOS ดีขึ้น ทั้งปริมาณสิว และเรื่องประจำเดือน, ส่วนเรื่องยาฮอร์โมน สามารถ #ทานยาคุมกำเนิดได้ หากไม่มีข้อห้ามในการทานยาคุมเป็นวิธีที่ดี สำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการมีบุตร ส่วนใครที่มีข้อห้ามในการทานยาคุมกำเนิด คุณหมอจะให้ทาน #ยาปรับฮอร์โมน ที่ไม่ใช่ยาคุมแทน เพื่อให้ประจำเดือนมา ลดความเสี่ยงของมะเร็งโพรงมดลูกนั่นเอง”
■ ขั้นตอนการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
“มะเร็งปากมดลูก จัดเป็นมะเร็งที่พบในเพศหญิงมากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม และ 70-80% เกิดจากการติดเชื้อ HPV โดยเชื้อนี้จะได้รับมาจากการมีเพศสัมพันธ์
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก คือ วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งเชื้อนี้มีมากกว่า 40 สายพันธุ์ โดยวัคซีนนี้จะคัดมาเฉพาะสายพันธุ์ดุๆ ที่มักก่อให้เกิดโรคร้าย โดยตัวที่ดุที่สุดคือ สายพันธุ์ 16 และ 18 ดังนั้นวัคซีนป้องกัน HPV ทั้งชนิด 2 สายพันธุ์, 4 สายพันธุ์ และตัวใหม่ 9 สายพันธุ์ จะครอบคลุมสายพันธุ์ 16 และ 18 อยู่ในนั้นด้วย
วัคซีนป้องกัน HPV ถ้าฉีดชนิด 4 หรือ 9 สายพันธุ์ ยังสามารถป้องกัน #มะเร็งทวารหนัก #มะเร็งปากช่องคลอด #มะเร็งองคชาต #หูดหงอนไก่ ดังนั้นผู้ชายก็ฉีดได้
ผู้หญิงสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9-45 ปี ผู้ชายสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9-26 ปี
– อายุ 9-15 ปี ฉีด 2 เข็ม
– อายุ 16 ปีขึ้นไป ฉีด 3 เข็ม
*ข้อห้าม ผู้หญิงมีครรภ์ หรือคนแพ้สารประกอบในวัคซีน
ฉีดได้ที่ไหน ขอรับบริการได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ทั้ง รพ.รัฐ รพ.เอกชน และคลินิกบางที่ได้เลย ส่วนราคาจะแตกต่างกันไป ตามจำนวนสายพันธุ์ ยิ่งจำนวนสายพันธุ์มาก ราคายิ่งสูง ราคาต่อคอร์สประมาณ 5000-10,000 บาท
*ระวัง! วัคซีนป้องกันได้ 70-90% เท่านั้น แม้จะฉีดแล้ว ก็ยังต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเสมอ”
■ วิธีแยกตกขาว และการใช้ยาเหน็บตกขาวที่ถูกต้องและปลอดภัย
“จริงๆ แล้ว ผู้หญิงมีตกขาวได้ทุกวันเป็นเรื่องปกติ บางช่วงมาก บางช่วงน้อย
– #ตกขาวปกติ จะมีสีขาว หรือใส บางช่วงมีสีเหลืองอ่อนๆ ได้ เปลี่ยนแปลงตามฮอร์โมนของรอบเดือน อาจจะมีกลิ่นเปรี้ยวอ่อนๆ ได้ แต่ไม่ควรมีกลิ่นเหม็นคาว ปริมาณสามารถมีได้มากน้อยแตกต่างกันไป
– #ตกขาวที่ไม่ปกติ สีเปลี่ยนไป เช่น กลายเป็นสีเขียวฟอง ขาวขุ่นจับเป็นก้อนคล้ายลิ่มนม หรือเป็นหนอง, มีกลิ่นเหม็นคาว หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เจ็บ คัน แสบ ปัสสาวะผิดปกติ ปวดท้อง
– #ตกขาวจากเชื้อรา จริงๆแล้ว เชื้อราเป็นเชื้อปกติที่อยู่ในช่องคลอดเราอยู่แล้ว แต่ถ้าไปรบกวนสมดุลของมัน เชื้อราจะโตขึ้นจนก่อปัญหา, อาการต้องสงสัยคือ ตกขาวเป็นก้อนคล้ายลิ่มนม คัน ระคายเคือง, การดูแลเบื้องต้น คือ ดูแลอย่าให้บริเวณอวัยวะเพศอับชื้น
– #ตกขาวจากแบคทีเรีย แบคทีเรียตัวนี้ ก็เป็นแบคทีเรียที่เขาอยู่ในช่องคลอดเราอยู่แล้วเช่นกัน แต่เขาเพิ่มจำนวนมากขึ้น เมื่อช่องคลอดเสียสมดุล, อาการต้องสงสัย คือ ตกขาวมีกลิ่น ไม่แสบ ไม่คันเท่าไหร่
– #ตกขาวจากพยาธิ ตัวนี้สำคัญคือ เป็นเชื้อที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ต้องรักษาไปพร้อมกัน ทั้งคนที่เป็นและคู่นอน, อาการต้องสงสัยคือ ตกขาวสีเปลี่ยนไป มีหนอง หรือเลือดปนได้ แสบ ระคายเคือง หรืออาจเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
– ตกขาวจากเชื้อรา แบคทีเรีย พยาธิ ทั้ง 3 แบบ แยกกันค่อนข้างยาก และอาจมีโรคอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ รวมถึงแต่ละอย่าง ใช้ยาไม่เหมือนกัน มีทั้งยากิน และยาเหน็บ หากมีตกขาวที่ผิดปกติ อยากแนะนำให้พบแพทย์ตรวจเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน แทนการซื้อยามาใช้เอง
#วิธีใช้ยาเหน็บช่องคลอด ล้างมือให้สะอาด, แกะเม็ดยาและจุ่มลงในน้ำสะอาด 1-2 วินาที ให้เม็ดยาลื่น, นอนหงาย ชันเข่า แยกขา, สอดยาเข้าช่องคลอด โดยนำด้านโค้งมนของยาเข้าไปก่อน, ใช้นิ้วชี้ดันยาเหน็บให้ลึกที่สุด และนอนท่าเดิมต่อ 10-15 นาที เพื่อให้ยาละลายและออกฤทธิ์ได้เต็มที่ ดังนั้นจึงแนะนำเหน็บยาก่อนนอน จะสะดวกที่สุดค่ะ”
■ การใช้ยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง กินอย่างไร?
“#ยาคุมฉุกเฉิน คือยาที่ใช้เมื่อฉุกเฉินตามชื่อเลย ไม่จัดว่าเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ไม่เหมาะกับการคุมกำเนิดระยะยาว เพราะมีโอกาสพลาดตั้งครรภ์ได้ถึง 1 ใน 5 ยาคุมฉุกเฉินมี 2 แบบค่ะ คือแบบเม็ดเดียว และแบบสองเม็ด
#ยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียว ทานครั้งเดียวจบ เน้นว่าต้องทานให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือภายใน 72 ชั่วโมง การทานยาตัวนี้ อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มาก เพราะปริมาณฮอร์โมนในเม็ดยาสูง
#ยาคุมฉุกเฉินแบบสองเม็ด ยังคงยึดหลักเริ่มทานให้เร็วที่สุด และทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เช่นเดิม โดยสามารถเลือกทานได้ 2 วิธี โดยวิธีแรก ทานรวม 2 เม็ดทีเดียวเลย ให้ผลเหมือนการทานชนิดเม็ดเดียว เหมาะกับคนขี้ลืม, วิธีที่สอง ทานเม็ดแรก ให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นตั้งเวลานับต่อไป 12 ชั่วโมง ค่อยทานเม็ดที่สอง วิธีนี้จะลดอาการข้างเคียงเรื่องคลื่นไส้อาเจียนได้มาก”
สิ่งที่คนมักเข้าใจผิด มีหลายเรื่องเลย
* ใช้ยาคุมฉุกเฉิน แปลว่าไม่ท้องแน่นอน อันนี้ไม่ใช่ค่ะ โอกาสพลาดมีสูงมาก ไม่ควรใช้เป็นวิธีหลัก
* ยาคุมฉุกเฉิน ทานได้เพียง 2 ครั้งในชีวิต อันนี้ก็ไม่ใช่ค่ะ แต่ไม่ควรทานเกิน 2 ครั้งต่อเดือน”
■ กำลังตั้งครรภ์ ท้องแตกลายมาก เกิดจากอะไร?
“ท้องแตกลาย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แม่ที่มีน้ำหนักมากตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์, แม่ที่มีน้ำหนักขึ้นมากขณะตั้งครรภ์, การดื่มสุรา, การดื่มน้ำน้อยเกินไป, กรรมพันธ์, เชื้อชาติ, ผิวขาว รวมไปถึงปัจจัยเกี่ยวกับลูกน้อยในครรภ์ เช่น ลูกตัวโตมาก หรืออายุครรภ์มาก
การเลือกครีมบำรุง ควรหาส่วนผสม Centella asiatica, Bitter almond oil และ Hyaluronic acid โดยต้องเริ่มทาตั้งแต่ยังท้องอ่อนๆ และนวดหลังทา 2-3 นาที ระวัง ครีมไม่ได้มาตรฐาน ครีมไม่มี อย. อาจผสมสารเร่งขาวต้องห้ามในคนท้อง เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน กรดเรติโนอิก ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อนเลือกใช้ แต่เรื่องรอยแตกไม่ได้เป็นอันตรายนะคะแล้วแต่ความพึงพอใจของแต่ละคน”
■ คลอดลูกนานแล้วแต่รอบเดือนไม่มา ผิดปกติไหม?
“ประจำเดือนหลังคลอด จะมาเมื่อไหร่ แล้วแต่สภาพร่างกายของคุณแม่แต่ละท่านเลย
– คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนจะมาช้าได้เป็นปกติ เนื่องจากฮอร์โมนเกี่ยวกับการสร้างน้ำนม มีผลยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเพศ ทำให้ประจำเดือนมาล่าช้า หรือไม่มีประจำเดือนตลอดการให้นมบุตรได้
– คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ไม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนจะมาได้เร็วขึ้นค่ะ
– คุณแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ประจำเดือนจะกลับมาได้ตั้งแต่ 6-8 สัปดาห์หลังคลอด”
■ การตรวจภายใน มีขั้นตอนการตรวจอะไรบ้าง?
“ควรเริ่มตรวจ เมื่อเริ่มมีเพศสัมพันธ์หรืออายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป แม้จะไม่มีอาการใดๆ ก็ตาม
#อาการที่ต้องมาตรวจภายใน เลือดออกผิดปกติหลังมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวผิดปกติ มีหนอง มีแผล มีหูด #ขั้นตอนการตรวจภายใน เริ่มแรกเลยคือไปเปลี่ยนผ้าถุง เตรียมพร้อมขึ้นขาหยั่ง, ขึ้นนอนบนเตียงขาหยั่ง ในขั้นตอนนี้ไม่อยากให้คนไข้อายหมอนะคะ แม้จะเป็นคุณหมอผู้ชายก็ตาม แยกเข่าแยกขา อย่าหนีบขา, การตรวจภายนอก เราจะเริ่มจากคลำผ่านหน้าท้อง มีก้อนอะไรไหม, ดูลักษณะภายนอกโดยรวม มีหูด มีแผล มีฝี มีหนองอะไรหรือไม่, จากนั้นคุณหมอจำเป็นต้องทำการสอดนิ้วเข้าในช่องคลอด เพื่อคลำลักษณะผิดปกติต่างๆ ที่มองไม่เห็นจากภายนอก, ปิดท้ายด้วยการสอดอุปกรณ์ถ่างช่องคลอด หรือที่หลายๆ คนชอบเรียกว่า ปากเป็ด เพื่อดูหน้าดูตาปากมดลูก และผิวด้านในช่องคลอด ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็เสร็จเรียบร้อย”
■ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มีขั้นตอนอย่างไร?
“ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก จะมี 2 แบบ แบบแรกเรียกว่าการตรวจ Pap smear เป็นการป้ายเซลล์ปากมดลูกไปตรวจว่ามีเซลล์ตัวไหนเริ่มกลายร่างหรือยัง ,กับแบบที่สอง เรียกว่า การตรวจหาเชื้อก่อมะเร็ง หรือตรวจหาเชื้อ HPV
ควรเริ่มตรวจ เมื่อเริ่มมีเพศสัมพันธ์ หรืออายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป แม้จะไม่มีอาการใดๆ ก็ตาม เพราะถ้ารอจนมีอาการ นั่นอาจจะกลายเป็นมะเร็งไปแล้วก็ได้
การตรวจ Pap smear ขั้นตอนเริ่มแรกเหมือนกับขั้นตอนตรวจภายในค่ะ ขึ้นขาหยั่งตามปกติ โดยจะมีการสอดอุปกรณ์ถ่างช่องคลอด เพื่อให้มองเห็นปากมดลูก และใช้ไม้ยาวเล็กๆ ป้ายเก็บเซลล์ในบริเวณนั้นมาตรวจ”
■ ทำหมันแล้วน้ำอสุจิออกน้อยมาก เกิดจากอะไร?
“ต้องทราบก่อนว่า น้ำอสุจิ ประกอบด้วย อสุจิ จากอัณฑะ และน้ำหล่อเลี้ยงจากต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ #การทำหมันชาย เป็นเพียงการตัดหลอดนำอสุจิจากอัณฑะเท่านั้น ในส่วนของอัณฑะ ที่เป็นตัวสร้างฮอร์โมนเพศชาย ยังอยู่ครบถ้วน ดังนั้นการทำหมันชายจึงไม่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ยังสามารถถึงจุดสุดยอดได้ตามปกติ
ถึงแม้ว่า พอตัดหลอดนำอสุจิแล้ว อสุจิจะไม่สามารถออกมาได้ แต่ยังคงมีน้ำหล่อเลี้ยงจากต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิออกมาได้อยู่ ดังนั้นแม้ว่าจะทำหมันแล้ว ก็จะยังมีน้ำอสุจิออกมาได้ แต่จะไม่มีตัวอสุจินั่นเอง ปริมาณจึงอาจลดลงได้เป็นปกติ
ปริมาณของน้ำอสุจิ โดยมากขึ้นอยู่กับความถี่ของการหลั่ง หลั่งบ่อยก็สร้างไม่ทัน ปริมาณจึงลดลงได้ นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากปัญหาอื่นๆ เช่น ต่อมลูกหมากโต หรือการทานยาบางชนิดได้”
‘คุยเรื่องเพศกับคุณหมอ’ https://bit.ly/2TSvha5
เราสร้างกลุ่มนี้ขึ้นมา เพื่ออยากให้สังคมไทยได้มีพื้นที่พูดคุยเรื่องเพศกันมากขึ้น
มาพูดคุยเรื่องสุขภาพทางเพศกัน
มีคำถามหรือสงสัยอะไรถามหมอมาได้เลยนะ
จะเรื่องเพศ ศัลยกรรม สุขภาพกาย สุขภาพจิต
เดี๋ยวพวกเราจะนำคำถามไปให้คุณหมอตอบให้
#คุยเรื่องเพศกับคุณหมอ
#SexEducationBySpectrum
Content & Graphic by Napaschon Boontham
อ่านข่าวเรื่องเพศอื่นๆ: www.spectrumth.com/
อ้างอิง
ภาพ: Kulachet Cheosakul
#Spectrum #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
- Advertisement -