คุณรู้เรื่องของคนข้ามเพศดีแค่ไหนบ้าง?
ชวนดู “I Don’t Care ไม่ว่าอย่างไร” โปรเจกต์ละครเวทีสัญชาติไทย-เยอรมัน ที่ได้แรงบันดาลใจและถูกตีความมาจากการบทสัมภาษณ์ชีวิตจริงของคนข้ามเพศ 8 คนจากไทยและเยอรมันนี
โดยงานนี้เป็นการร่วมมือกันของ B-Floor Theatre (ไทย) และ Residenztheater (เยอรมันนี) ผ่านฝีมือการกำกับของ ‘จารุนันท์ พันธชาติ’ และ ‘อันนา-เอลิซาเบ็ธ ฟริค’ ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Goethe-Institut และ The Jim Thompson Art Center ซึ่งทางทีมงานได้ใช้เวลาเก็บข้อมูลบทสัมภาษณ์ของคนข้ามเพศทั้งแปดมายาวนานกว่า 3 ปี
ละครเริ่มเล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้องของการประกอบสร้างสิ่งที่เรียกว่า “เพศ” ผ่านตำนาน วรรณกรรมจากทั้งสองชาติ สู่เรื่องราวชีวิต การนิยามตัวตน อัตลักษณ์ การตัดสินใจ ความสับสน ห้วงอารมณ์ ความทุกข์ทรมาณของคนข้ามเพศ ตั้งแต่เด็ก จวบจนวันที่ตัดสินใจผ่าตัดยืนยันเพศ และต้องเติบโตใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ในการทำงาน ในบริบทประเทศที่ต่างกัน ผ่านนักแสดงเพียงสามคน (ไทย 2 คน เยอรมัน 1 คน)
ที่จะชวนให้เราตกตะกอนไปพร้อม ๆ กันว่า มันไม่ง่ายเลยกว่าที่คนข้ามเพศและเพศอื่น ๆ นอกเหนือไปจากชายหญิงจะได้เป็นตัวเองและออกมาพูดได้อย่างเต็มปากเหมือนดังชื่อเรื่องที่ว่า “I Don’t Care ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”
ละครเวทีเรื่องนี้จะแสดงรอบปฐมทัศน์โลกที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 15-18 และ 22-25 กันยายน (พร้อม Post-show talk วันที่ 16 และ 23) ก่อนที่จะเคลื่อนย้าย ไปแสดงที่กรุงมิวนิค ประเทศเยอรมันในเดือนตุลาคม
[บท (กึ่ง) วิเคราะห์ มีการเล่าเนื้อหาเล็กน้อย]
นอกจากชื่อเรื่องที่ดึงดูดแล้ว ตัวละครเวทียังมีกิมมิกที่น่าสนใจตั้งแต่ก่อนเข้าชม ที่ได้มีการแบ่งผู้ชมออกเป็นสองฝั่งด้วยการจับฉลากสติ๊กเกอร์สีฟ้าและชมพู ล้อเคียงไปกับสังคมแบบไบนารี่ชาย-หญิงที่เราต่างถูกแปะป้ายเพศของเราไปแล้วตั้งแต่ในตอนเกิด โดยสารที่ผู้ชมทั้งสองฝั่งได้รับจะเป็นเรื่องราวเดียวกัน หากแต่มุมมองของภาพที่เห็นอาจจะแตกต่างออกไปบ้างเล็กน้อย
เสื้อผ้า – เป็นสื่อหลักที่ถูกนำมาใช้เพื่อสื่อสารกับคนดูเป็นเสมือนตัวแทนของกรอบเพศ ความเป็นชาย ความเป็นหญิง ฟังดูแล้วอาจจะดูคลิเช่ไปบ้าง แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่ทำให้คนดูสามารถเข้าถึงเรื่องราวของตัวละครได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนำชุดต่อเป็นผมยาวสลวย หรือในตอนท้ายที่ให้คนดูได้มีส่วนร่วมในการโยนเสื้อผ้าทิ้งไป เหมือนการสลัดทิ้งซึ่งขนบสังคมที่เคยบีบบังคับรัดตัวเราไว้
อีกพาร์ทที่น่าประทับใจ คือการพูดถึงเรื่องการ ‘ข้ามเพศ’ และการ ‘ผ่าตัดยืนยันเพศ’ ผ่านบทละครที่ตัดสลับกับบทสัมภาษณ์บุคคลจริงที่แทรกเข้ามาเป็นช่วง ๆ ได้อย่างเรียกว่าค่อนข้าง ‘ละเอียดยิบ’ เต็มไปด้วยข้อมูลแบบอินไซด์มากเท่าที่จะใส่มาได้ในละครเวทีความยาวราวสองชั่วโมง โดยพูดถึงทั้งกระบวนการของหญิงข้ามเพศ และชายข้ามเพศ
คนที่ไม่ใช่คนข้ามเพศที่อาจจะไม่เคยรู้หรือตระหนักมาก่อน จึงน่าจะได้เห็นภาพอย่างชัดเจนผ่านบทละครนี้ ว่ากระบวนการข้ามเพศนั้นมันช่างเป็นเรื่องที่ทรมาณทรกรรมสำหรับพวกเขา แต่ในขณะเดียวกันก็คือ “สิ่งจำเป็น” ที่คนข้ามเพศต้องได้รับการสนับสนุนไม่ว่าจะในประเทศใดก็ตาม
โดยเฉพาะตอนที่เสียงเพลง “Happy Birthday” ดังขึ้นมาเมื่อจบพาร์ทที่พูดถึงเรื่องการข้ามเพศ ชวนให้เราขนลุกเกรียว กับแมสเซจที่บอกว่าการข้ามเพศ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้ ‘ “เกิด” มาเป็นตัวเองจริง ๆ เสียที’ จากที่ต้องเคยรู้สึก “เป็นอื่น” มาตลอด
การถกเถียงภายใต้บริบทของประเทศที่ต่างกันคืออีกประเด็นที่น่าสนใจ ว่าประเทศไทย ที่เราคุ้นชินกันดีอยู่แล้ว และประเทศเยอรมันนี ที่ ‘ดูจะเป็น’ ประเทศโลกที่หนึ่งที่เปิดรับความหลากหลายนั้นแท้จริงแล้ว ชีวิตของ LGBT+ แตกต่างกันออกไปอย่างไรบ้าง? ดีกว่ากันจริง ๆ น่ะหรือ?
กฎหมาย พื้นที่ทางการเมือง สมรสเท่าเทียม ไปจนถึงหรือปัญหาในชีวิตประจำวันที่ดูจะเล็กน้อย แต่แท้จริงเป็นเรื่องใหญ่ อย่างการเลือกเข้าห้องน้ำ ถูกสอดแทรกและตั้งคำถามอย่างแยบคาย (และประชดประชันแบบแสบ ๆ คัน ๆ) ในบทสนทนาและการปฏิสัมพันธ์กับคนดูเป็นครั้งคราวของนักแสดงทั้งสามที่เอาเวทีได้อย่างอยู่หมัด
[จบบทวิเคราะห์]
ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงทำให้ “I Don’t Care ไม่ว่าอย่างไร” เป็นละครเวทีเล็ก ๆ ที่ส่งข้อความได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งหากมีโอกาสก็ไม่อยากให้พลาดชมด้วยประการทั้งปวง
สำหรับใครที่สนใจสามารถจองบัตรได้ที่: shorturl.at/ikUY3
บัตรราคา 750 บาท
บัตรนักเรียน นักศึกษา และสมาชิก The Jim Thompson Art Center ราคา 600 บาท
โปรโมชั่นบัตรกลุ่ม 3 ใบ ราคาใบละ 700 บาท และ 5 ใบ ราคาใบละ 650 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง DM เพจ B-Floor
#BFloor #BFloorTheater #Residenztheatre #IDontCareไม่ว่าอย่างไร #GoodHappening
Content by PS
Graphic by Napas
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน