คุยเรื่องเพศ กับคุณหมอ หญิง – ผศ.พญ.พูนพิศมัย สุวะโจ และ ปิง – นพ.ศิวัฒน์ เสรีโรดม

- Advertisement -

SEX EDUCATION: คุยเรื่องกับคุณหมอหญิง – ผศ.พญ.พูนพิศมัย สุวะโจ อาจารย์หน่วยศัลยกรรมและเสริมสร้าง รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสุขภาพคนข้ามเพศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณหมอปิง – นพ. ศิวัตม์ เสรีโรดม แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 5 หน่วยศัลยกรรมและเสริมสร้าง รพ. จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

รวบรวมคำถามจากคนที่ส่งเข้ามาถามในกลุ่ม เพศ

■ ‘การแต๊บ’ เสี่ยงอันตรายและในระยะยาวส่งผลอย่างไรบ้าง?
“‘การแต๊บ’ (Tucking หรือ Genital tucking) เป็นเทคนิคการอำพรางอวัยวะเพศของกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศที่ยังไม่ได้ผ่าตัดแก้ไขลักษณะกายวิภาคของอวัยวะเพศด้วยวิธีทางการแพทย์เพื่อให้จุดซ่อนเร้นดูเรียบแบนคล้ายอวัยวะเพศหญิง มีเทคนิคหลักๆอยู่ 2 แบบคือ แบบไม่ใช้เทป และ แบบใช้เทป

ขั้นตอนใน ‘การแต๊บ’ ประกอบด้วยการดันลูกอัณฑะกลับเข้าไปในช่องท้องผ่านทางช่องบริเวณขาหนีบ ซึ่งในคนส่วนมากช่องทางนี้จะปิดไปแล้วจนไม่สามารถดันอัณฑะกลับเข้าไปได้หมด แต่อย่างน้อยก็จะสามารถหลบไปใต้ไขมันหัวเหน่าตรงยอดถุงอัณฑะได้ ทำให้ไม่โหนกนูนกวนสายตา หลังจากนั้นจึงทำการเก็บองคชาตด้วยการพาดไปตามร่องหว่างขา อาจจะยาวไปถึงหว่างแก้มก้น

เทคนิคที่ไม่ใช้เทป สามารถทำได้โดยการใช้กางเกงชั้นในที่รัดรูป หรือใช้ชั้นในสำหรับผู้หญิงข้ามเพศโดยเฉพาะ แต่ในบางรายที่ต้องการความแน่นหนา จะมีการใช้เทปช่วยช่วยพันถุงอัณฑะติดกับองคชาติ แล้วดึงไปแปะแก้มก้นทางด้านหลัง ซึ่งเทปที่แนะนำให้ใช้คือเทปทางการแพทย์หรือเทปสำหรับนักกีฬาที่ผลิตมาสำหรับผิวหนังเท่านั้น ไม่แนะนำให้ใช้เทปแปะท่อประปา หรือเทปแปะกระดาษ เพราะอาจจะระคายเคืองผิวหนังได้

‘การแต๊บ’ ไม่ควรรัดแน่นจนต้องทนด้วยความเจ็บปวด ไม่ควรแต๊บตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ และไม่ควรที่จะจงใจกินน้ำน้อยลงขณะแต๊บเพราะกลัวว่าจะปัสสาวะลำบาก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาโรคทางเดินปัสสาวะตามมา ‘การแต๊บ’ ยังไม่มีการวิจัยขนาดใหญ่รายงาน อย่างไรก็ตามจะทำให้อัณฑะมีอุณหภูมิสูงขึ้น อาจะมีผลทำให้ผลิตอสุจิได้ลดลง ดังนั้นในผู้หญิงข้ามเพศที่ต้องการเก็บภาวะเจริญพันธุ์ไว้แนะนำให้เก็บอสุจิตัวเองแช่แข็งไว้ก่อน”

■ ผู้ชายข้ามเพศจำเป็นต้องเทคฮอร์โมนก่อนผ่าตัดหน้าอกไหม?
“การผ่าตัดหน้าอกในผู้ชายข้ามเพศสามารถเทคฮอร์โมนก่อนผ่าตัดหรือผ่าตัดก่อนเทคฮอร์โมนก็ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ การเทคฮอร์โมนในผู้ชายข้ามเพศจะทำให้เสียงเริ่มแตก โครงหน้าเปลี่ยน มีหนวดเครา ขนเส้นใหญ่ขึ้น หนาขี้น หน้าอกมีฐานกว้างขึ้น

การผ่าตัดเต้านม เป็นการเอาเนื้อเยื่อเต้านมออกทั้งหมด ในบางรายอาจจะรวมถึงผิวหนังส่วนเกินของเต้านมด้วย โดยจะยังคงหัวนมและปานนมไว้เช่นเดิมแต่จะมีการตกแต่งให้เล็กลงเหมือนกับในเพศชาย ซึ่งเทคนิคในการผ่าตัดนั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของเต้านม และคุณภาพของผิวหนังบริเวณเต้านมด้วย

เทคนิคผ่าตัดเต้านม
(U- Scar) เป็นการลงแผลผ่าตัดบริเวณใต้ปานนม คล้ายรูปตัว U วิธีการผ่าตัดนี้แผลเป็นจะดีที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีเต้านมไม่ใหญ่มาก ผิวหนังส่วนเกินไม่มากและคุณภาพผิวหนังของเต้านมยังดีอยู่ วิธีการผ่าตัดแบบนี้สามารถลดขนาดหัวนมได้ ข้อดีของวิธีนี้คือ แผลเป็นจะถูกซ่อนอยู่ใต้ปานนม และหัวนมยังมีความรู้สึก ข้อเสียคือต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้ผิวหนังหดตัวแนบไปกับฐานหน้าอก และมีโอกาสที่จะต้องมาผ่าตัดตกแต่งเพิ่มเติม โดยการฉีดยาชาเฉพาะที่ เช่น ลดขนาดปานนม หรือตัดผิวหนังส่วนเกินกรณีที่ผิวหนังหดตัวได้ไม่หมด

(O – Scar) เป็นการลงแผลผ่าตัดบริเวณรอบปานนมคล้ายรูปตัว O แผลเป็นเป็นรูปวงกลมรอบปานนม เหมาะกับผู้ที่มีเต้านมไม่ใหญ่มาก ผิวหนังส่วนเกินไม่มากและคุณภาพผิวหนังของเต้านมยังดีอยู่เช่นเดียวกับแผลรูปตัว U แต่ข้อดีของวิธีนี้คือ นอกจากลดขนาดหัวนมได้แล้ว ยังสามารถลดขนาดปานนมและย้ายตำแหน่งหัวนมและปานนมได้เล็กน้อย โดยยังคงความรู้สึกของหัวนมไว้ ข้อเสีย แผลเป็นจะเห็นได้ชัดกว่า U-scar และต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้ผิวหนังหดตัวแนบไปกับฐานหน้าอก และมีโอกาสที่จะต้องมาผ่าตัดตกแต่งเพิ่มเติมตัดผิวหนังส่วนเกินกรณีที่ผิวหนังหดตัวได้ไม่หมดเช่นเดียวกัน

(Double Incision Scar) เป็นการผ่าตัดโดยลงแผลเป็นยาวตั้งแต่หน้าอกด้านใน ยาวมาจนถึงบริเวณด้านข้างโดยแผลเป็นอาจจะเฉียงขึ้นไปด้านบนหรือยาวไปบริเวณสีข้างขึ้นกับความถนัดของแพทย์ วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีเต้านมขนาดใหญ่ มีผิวหนังเกินและคุณภาพของผิวหนังบริเวณเต้านมไม่ดี ข้อดีคือ สามารถเก็บเต้านม ผิวหนัง รวมทั้งไขมันบริเวณหน้าอกออกได้ทั้งหมด สามารถลดขนาดและปลูกถ่ายหัวนมและปานนมให้อยู่ในตำแหน่งเหมือนกับผู้ชายได้เลย ดังนั้นการผ่าตัดวิธีนี้จะได้หน้าอกที่เหมือนกับผู้ชายในทันทีไม่ต้องรอให้ผิวหนังหดตัว แต่ข้อเสียมีมากกว่า 2 วิธีข้างบน คือ หัวนมและปานนมจะถูกตัดออกมาและปลูกถ่ายไปใหม่ ดังนั้นหัวนมจะไม่มีความรู้สึก และหัวนมและปานนมที่ปลูกถ่ายลงไปก็อาจจะไม่ติดทั้งหมด ทำให้หัวนมแบนหรือมีขนาดเล็กได้ แผลเป็นจากการผ่าตัดด้วยวิธีนี้เห็นชัดที่สุด เนื่องจากจะมีแผลเป็นยาวอยู่ใต้ราวนม

อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดทุกวิธีมีทั้งข้อดี ข้อเสีย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะเต้านมของคนไข้แต่ละราย ความถนัดและการพิจารณาของแพทย์ผู้ผ่าตัดด้วย”

■ การทำ Vaginoplasty ควรให้ช่องคลอดมีความกว้างเท่าไรถึงไม่เจ็บเวลามีเซ็กซ์?
“การผ่าตัด Vaginoplasty จะเป็นการผ่าตัดสำหรับ 2 กลุ่มหลัก คือของทรานส์เจนเดอร์ และ คนที่มีอวัยวะเพศหญิงแต่กำเนิด Vaginoplasty สำหรับทรานส์เจนเดอร์คือการผ่าตัดลักษณะกายวิภาคของอวัยวะเพศชายให้เป็นอวัยวะเพศหญิง โดยการผ่าตัดจะได้ช่องคลอดที่มีความกว้าง ขึ้นอยู่กับความกว้างของกระดูกเชิงกรานของคนไข้ เพราะว่ากระดูกเชิงกรานของชายแต่กำเนิดและหญิงแต่กำเนิดไม่เท่ากันโดยผู้ชายมักมีขนาดแคบกว่า ส่วนความลึกขึ้นกับส่วนเว้าของเยื่อหุ้มช่องท้องซึ่งแตกต่างไปในแต่ละคน การผ่าตัดช่องคลอดจะผ่าให้กว้างที่สุดและลึกที่สุดเท่าที่ทำได้โดยไม่กระทบกับเส้นประสาทที่มาเลี้ยงบริเวณอุ้งเชิงกราน โดยในคนไทยส่วนใหญ่จะได้ความลึกประมาณ 5-6 นิ้ว

สำหรับคนที่มีอวัยวะเพศหญิงแต่กำเนิด ส่วนใหญ่เป็นการรีแพร์เน้นกระชับขึ้นเพราะเชิงกรานผู้หญิงจะกว้างกว่าอยู่แล้ว ทำให้มีปัญหากว้างเกินไปมากกว่าแคบเกินไป ส่วนความกว้างแคบ ลึก จะขึ้นอยู่กับสรีระของคนไข้ และขนาดของคู่นอน ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้วัดขนาดของคู่นอน หรือ บอกขนาดโดยประมาณ ซึ่งไม่มีปัญหากับเพศสัมพันธ์เพราะช่องคลอดของผู้หญิงสามารถขยายตัวได้ ความกว้างโดยส่วนใหญ่ประมาณเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-4 เซนติเมตร เป็นขนาดที่สามารถตรวจภายในได้และไม่แน่นจนเกินไป”

■ เซ็กซ์ทางทวารรู้สึกเจ็บกลัวฉีกขาด ต้องสังเกตว่าฉีกขาดระดับไหนต้องไปพบแพทย์?
“เซ็กซ์ทางทวารหนักมีโอกาศเกิดการฉีกขาดได้ค่อนข้างยากหากไม่รุนแรงจนเกินไปเพราะรูทวารสามารถขยายขณะมีเซ็กซ์ได้และลำไส้ของเรามีหลายชั้น ตั้งแต่ชั้นเยื่อบุของผนังลำไส้ ชั้นกล้ามเนื้อ ชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ โดยการฉีกขาดก็มีตั้งแต่การขาดของชั้นเยื่อบุลำไส้ ทำให้มีเลือดออกได้เล็กน้อย และสามารถหายได้เองอยู่แล้ว และค่อนข้างเร็ว โดยไม่ต้องมาพบแพทย์ แต่ถ้าเกิดการฉีกขาดถึงชั้นกล้ามเนื้อหรือถึงหูรูดทวารหนัก มีอาการเจ็บ เลือดไหลมาก/ไม่หยุด ก็ควรต้องมาพบแพทย์ซึ่งสามารถผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมได้ ทวารหนักเกิดการฉีกขาดได้เนื่องจากเยื่อบุลำไส้มีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติน้อยกว่าในช่องคลอด ดังนั้นต้องใช้น้ำยาหรือเจลหล่อลื่นมากเพียงพอในการช่วย และควรป้องกันโรคติดต่อโดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง”

■ คลิตอริสใหญ่ผิดปกติ เกิดจากอะไร ต้องการผ่าตัดทำได้ไหม?
“คลิตอริส (Clitoris) ตำแหน่งอยู่ส่วนบนสุด ตรงระหว่างแคมเล็กทั้งสองข้างมาบรรจบกัน ลักษณะเป็นก้อนเนื้อสามารถแข็งตัวได้ และมีหนังบางๆคลุมป้องกันเอาไว้ มีหน้าที่ในการนำความรู้สึกทางเพศ ในยามที่มีเซ็กซ์คลิตอริสจะถูกเสียดสีไปมาโดยองคชาตทำให้ผู้หญิงไปถึงจุดสุดยอดได้ การที่มีคลิตอริสใหญ่เนื่องจากได้รับฮอร์โมนเพศชายเข้าไป อย่างเช่นในทรานส์เมนที่ได้รับฮอร์โมนเพศชายเข้าไปก็จะทำให้มีคลิตอริสใหญ่ ซึ่งถือเป็นปกติ แต่ในเพศหญิงที่มีคลิตอริสใหญ่ เกิดจากมีการผลิตฮอร์โมนเพศชายที่มากขึ้น ซึ่งมีได้หลายสาเหตุ เช่น จากยา, โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบต่อมไร้ท่อ หรือเกิดจากเนื้องอกบางชนิด ซึ่งต้องหาสาเหตุก่อนการรักษา

การมีคลิตอริสใหญ่ไม่ได้ทำให้มีอารมณ์ทางเพศสูงขึ้น แต่เป็นผลจากการมีอารมณ์เพราะมีฮอร์โมนเพศชายที่มากกว่าปกติ และทำให้มีความไวต่อความรู้สึก เกิดความพึงพอใจในระหว่างมีเซ็กซ์ได้ และอาจจะทำให้ถึงจุดสุดยอดได้เร็วในผู้หญิงและในผู้หญิงบางคนที่มีหนังคลุมคลิตอริสอาจมีขนาดใหญ่, หนาตัวผิดปกติ หรือยื่นเกินออกมามากตั้งแต่เกิด หรือในบางคนอาจมาเป็นภายหลังจากการคลอดบุตรหรือด้วยอายุที่มากขึ้น ทำให้ความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ลดลงได้ การผ่าตัดตกแต่งหนังคลุมคลิตอริสก็สามารถทำได้ โดยจะทำการตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของหนังคลุมคลิตอริสในแต่ละด้านออก”

- Advertisement -

■ การขลิบมีกี่วิธี มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง?
“การขลิบ คือ การตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายออก เพื่อเปิดหัวขององคชาต ในทางการแพทย์พบว่า การขลิบง่ายต่อการทำความสะอาดปลายอวัยวะเพศ ลดการหมักหมมของเชื้อโรค และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ลดอัตราการเกิดโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงที่เป็นคู่นอนได้ด้วย

การขลิบมี 2 วิธี ผ่าตัดธรรมดาและใช้เครื่องมือขลิบอัตโนมัติ
การผ่าตัดธรรมดาคือการตัดเอาหนังหุ้มปลายออกเพื่อเปิดปลายอวัยวะเพศออกมาและเย็บใหม่ให้สวยงาม ส่วนวิธีที่ 2 ใช้เครื่องมือตัดอัตโนมัติที่มีความปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เครื่องสามารถช่วยห้ามเลือดและขลิบหนังหุ้มปลายออกในเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องเย็บ

การขลิบขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ คนไข้ที่มีปัญหาที่หัวองคชาตไม่เปิด เรื่องเพศสัมพันธ์ที่ทำให้รับสัมผัสได้ไม่เต็มที่ระหว่างมีเซ็กซ์ อาจแก้ปัญหาเรื่องหลั่งเร็วเพราะเมื่อหัวส่วนปลายอวัยวะเพศเปิด ก็จะเสียดสีกับสิ่งรอบๆซึ่งช่วยลดความไวต่อการสัมผัส ทำให้หลั่งช้าลงได้ หรือเป็นความเชื่อของบางศาสนา เป็นต้น

ส่วนข้อเสียของการขลิบนั้น คือ ในผู้หญิงข้ามเพศที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศ ถ้าขลิบออกไปแล้วจะทำให้เสียหนังหุ้มปลาย ที่จะนำมาทำเป็นอวัยวะเพศหญิงเหลือน้อย อาจจะทำให้ได้ลักษณะของอวัยวะเพศหญิงที่ไม่สวยงามเหมือนผุ้ที่ไม่ได้ขลิบมาก่อน”

■ เป็นคนที่ไม่ค่อยเสร็จ สามารถฉีดเสริมจีสปอตได้ไหม?
“ปุ่ม จี สปอต (G-spot) จะมองไม่เห็นด้วยตาอย่างคลิตอริส เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อบริเวณผนังช่องคลอดด้านหน้า โดยอยู่ลึกจากเยื่อบุช่องคลอดประมาณ 1 เซนติเมตร ปุ่มนี้จะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดมารวมตัวหนาแน่น จึงเป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึก ถ้าได้รับการกระตุ้นจะทำให้ถึงจุดสุดยอดระหว่างมีเซ็กซ์ได้

แต่ในผู้หญิงบางคนจะมีจุด จี สปอต อยู่ลึกลงไปอีกทำให้ไม่ถูกการกระตุ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นการฉีดเสริมจุด จี สปอต โดยการฉีดสารบางอย่างเข้าไป เช่น ไขมันของตัวเอง หรือฟิลเลอร์ เพื่อให้จุดจีสปอตนูนขึ้นมาและถูกกระตุ้นได้ง่ายขึ้น เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจแก่เพศหญิงมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่มีการวิจัยที่รองรับว่าการฉีดสารเสริมจีสปอต จะสามารถสร้างความพึงพอใจมากขึ้นขณะมีเซ็กซ์”

■ ช่องคลอดหลวมแก้ไม่หายรักษาอย่างไรได้บ้าง?
“ช่องคลอดหลวมอาจเกิดจาก คลอดลูกทางช่องคลอด คลอดลูกหลายคน มีเซ็กซ์มาเป็นเวลานาน หรืออายุที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุทำให้อุ้งเชิงกรานหย่อน การรักษาก็สามารถทำได้ 2 วิธีคือแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด การรักษาขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้

แบบไม่ผ่าตัดมีตั้งแต่การฝึกขมิบ (pelvic floor muscle exercise) การขมิบช่องคลอดเป็นวิธีกระชับที่ดี และปลอดภัยที่สุด ทำได้บ่อยตามที่ต้องการ แต่ข้อเสียคืออาจจะเห็นผลค่อนข้างช้า และต้องทำเป็นประจำและต่อเนื่อง ซึ่งการขมิบที่ถูกต้อง ต้องขมิบเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานเท่านั้น คล้ายกับเวลากลั้นปัสสาวะ โดยไม่กลั้นหายใจ ไม่เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องหรือต้นขาร่วมด้วย ทำค้างไว้ 10-20 วินาที แล้วคลายออก แล้วจึงเริ่มขมิบใหม่ ต้องทำ 8 -12 ครั้งต่อรอบ ทำวันละ 3 รอบทุกวัน เป็นเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปจึงจะเริ่มเห็นผล

วิธีที่สองคือการทำการเลเซอร์(vaginal laser) จะมีข้อจำกัดคือรักษาปัญหาช่องคลอดหลวมได้แค่ ระดับเริ่มต้นที่มีความหย่อนคล้อยไม่มากนัก การรักษากลุ่มนี้ใช้เวลาในการรักษานาน ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการรักษาเช่นเดียวกัน ส่วนการรักษาแบบผ่าตัด หรือที่เรียกว่า รีแพร์ (vaginal repair) เหมาะกับผู้ที่ช่องคลอดหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก เป็นการผ่าตัดยกกระชับช่องคลอด ซึ่งเห็นผลชัด และเร็วกว่าการรักษาแบบไม่ผ่าตัด แต่มีความเสี่ยงของการผ่าตัด และการพักฟื้นหลังการผ่าตัดด้วย”

■ เต้านมผู้ชายมีขนาดโตกว่าปกติ เกิดจากอะไร?
“ภาวะผู้ชายมีนม (gynecomastia) เป็นอาการที่เนื้อเยื่อเต้านมของผู้ชาย (เพศทางชีววิทยา) เกิดการขยายตัว ทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยสามารถเกิดขึ้นได้ 3 สาเหตุหลักๆ คือ 1.ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด (idiopathic) 2.เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา (physiologic) เช่น วัยแรกเกิด การได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนขณะอยู่ในครรภ์แม่ก็อาจจะทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นได้ หรือช่วงวัยรุ่น(12-14 ปี) ฮอร์โมนในร่างกายของมีการเปลี่ยนแปลง ในผู้ชายบางคนมีการผลิตฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) ที่มากกว่าปกติ หรือในผู้สูงอายุที่มีการลดลงของฮอร์โมนเพศชาย(เทสโทสเตอโรน) และมีการผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้น 3.การใช้ยาบางชนิดหรือการเจ็บป่วยบางอย่างซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมน ซึ่งทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง หรือมีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น

การรักษาต้องมีการซักประวิต ตรวจร่างกาย และอาจจะต้องตรวจทางห้องปฎิบัติการ เพื่อหาสาเหตุก่อนว่าเกิดจากอะไร ถ้าทราบสาเหตุแน่ชัด เช่นจากยา จากโรคหรือเนื้องอก บางชนิดก็ต้องรักษาตามสาเหตุ แต่ในรายที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา ส่วนใหญ่ถ้าเป็นมาไม่นาน ยังไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด อาจจะใช้การตรวจติดตาม หรือใช้ยาเพื่อลดระดับฮอร์โมนเพศหญิง ไม่ให้ผลิตมากเกินไป สำหรับการผ่าตัดใช้ได้กับผู้ป่วยในรายที่การรักษาอื่นไม่ได้ผลหรือคิดว่าไม่ได้ประโยชน์จากการรักษาด้วยวิธีอื่น การผ่าตัดสามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องดูดไขมัน หรือผ่าตัดแบบเปิดซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดแผลที่ด้านล่างของปานนม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะเต้านมของผู้ป่วย”

■ การกำจัดขนอวัยวะเพศแบบปลอดภัย มีวิธีไหนบ้าง?
“การเลือกวิธีกำจัดขนมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความพอใจ แต่ควรเป็นวิธีที่ไม่เกิดอันตรายต่ออวัยวะเพศ จะต้องศึกษาข้อดี ข้อจำกัด และความปลอดภัยเป็นหลัก

การจำกัดขนที่ได้ผลในระยะสั้น
1.การถอน เป็นการใช้แหนบ ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังการใช้ เพื่อลดการติดเชื้อ ขนที่งอกใหม่อยู่ที่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ อาจจะรู้สึกปวดเล็กน้อยหรือบวมแดงบริเวณที่ถอนและเสี่ยงเกิดขนคุดได้ หากดึงเส้นขนขาดจากกัน

2.การแวกซ์ คือการติดแผ่นสำเร็จรูปและดึงออก ขนที่งอกใหม่อยู่ที่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ วิธีนี้ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ขนที่ขึ้นใหม่จะบางและไม่แข็งเหมือนการโกน แต่ว่าบางทีอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย และก็มักเกิดรอยแดงหรือตุ่มนูนหลังทำ

3.การโกน เป็นการใช้มีดโกนหรือเครื่องโกนขนไฟฟ้า ควรโกนตามแนวขน และให้ผิวบริเวณนั้นเปียกเล็กน้อย เพื่อช่วยทำให้ขนไม่แข็งจนเกินไปแล้วก็โกนได้ง่ายขึ้น ควรที่จะใช้ครีมโกนขนร่วมด้วย เพื่อป้องกันการระคายเคือง ขนจะขึ้นใหม่ภายใน 3-5 วันจึงทำให้จะต้องโกนเป็นประจำ

4.ครีมกำจัดเส้นขน เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทครีมหรือของเหลวสำหรับทาผิวหนังโดยสารเคมีในครีมจะไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างโปรตีนของเส้นขนที่อยู่เหนือผิวหนังให้อ่อนเช็ดออกได้ง่าย คนที่เคยมีอาการแพ้ ควรจะทดลองทดสอบก่อนใช้บนผิวหนังก่อน โดยขนจะขึ้นใหม่ภายใน 1-2 อาทิตย์

การจำกัดขนที่ได้ผลในระยะยาวในปัจจุบันนิยมใช้เลเซอร์จะมีการเลือกความความเข้มข้นที่เหมาะสมกับสำหรับรากขน หลังจากทำเลเซอร์ประมาณ 2 อาทิตย์ ขนจึงจะค่อยหลุดร่วง การกำจัดขน 1 ครั้ง จะกำจัดขนไม่ให้ขึ้นใหม่ได้ ประมาณ 15-30% แต่ขนที่ขึ้นใหม่ก็จะบางลง เนื่องจากขนของขนเรามีหลายระยะ ดังนั้นจึงต้องมีการทำหลายครั้ง เฉลี่ยก็จะทำอย่างน้อย 4-6 ครั้ง แม้จะบอกว่าเป็นการเลเซอร์แบบถาวร แต่อาจจะก็ยังเหลือขนขึ้นเป็นเส้นบางๆได้เล็กน้อย”

‘คุยเรื่องเพศกับคุณหมอ’ https://bit.ly/2TSvha5
เราสร้างกลุ่มนี้ขึ้นมา เพื่ออยากให้สังคมไทยได้มีพื้นที่พูดคุยเรื่องเพศกันมากขึ้น

มาพูดคุยเรื่องสุขภาพทางเพศกัน
มีคำถามหรือสงสัยอะไรถามหมอมาได้เลยนะ
จะเรื่องเพศ ศัลยกรรม สุขภาพกาย สุขภาพจิต
เดี๋ยวพวกเราจะนำคำถามไปให้คุณหมอตอบให้

#คุยเรื่องเพศกับคุณหมอ
#SexEducationBySpectrum

Content & Graphic by Napaschon Boontham
อ่านข่าวเรื่องเพศอื่นๆ: www.spectrumth.com/
#Spectrum #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

- Advertisement -
นภัสชล บุญธรรม
นภัสชล บุญธรรม
Illustrator & Graphic Designer